เมนูไก่ทอดผัดพริกเกลือสมุนไพร อร่อยโดนใจทั้งครอบครัว

เมนูไก่ทอดนี้มีหลายสูตรนะคะ แต่วันนี้เราจะทำให้ไก่ทอดธรรมดามีรสชาติหอมอร่อย กินเพลินกว่าเดิมจากเมนู “ไก่ทอดผัดพริกเกลือสมุนไพร” นั่นเองค่ะ  อร่อยหอมมาก ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่แน่นอน จะทานเป็นกับข้าวหรือกับแกล้มก็ลงตัวไปหมด มาลองทำกันดูค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.สะโพกไก่ หรือส่วนไหนก็ได้ตามชอบ 1 กก.----สับขนาด 1 นิ้ว ล้าง พักให้สะเด็ดน้ำ

2.สมุนไพร-เม็ดพริกไทยอ่อนแกะเอาแต่เม็ด 4 ชต. กระชายซอย 5 ชต. ใบมะกรูดซอย 2 ชต. ตะไคร้ซอยละเอียด 3-4 ต้น พริกแดงซอย 1 ชต.(หรือตามชอบ) พริกไทยดำตำ 1.5 ชต.

3.พริกขี้หนูสวน 15 เม็ด กระเทียม 15-20 กลีบ(ตำพริกกับกระเทียมไม่ต้องละเอียดมาก) // เกลือป่น น้ำตาลทราย ผงปรุงรส(หากชอบ)

 

วิธีทำ


1.ทอดไก่ให้กรอบนอก นุ่มใน แล้วพักให้สะเด็ดน้ำมัน

2.เทน้ำมันออกเหลือติดก้นกระทะไว้ประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ เอาพริกกระเทียมที่ตำลงผัดไฟอ่อน ให้หอมและเหลือง

3.เติมน้ำลงไป 3 ช้อนโต๊ะและตามด้วย กระชาย พริกไทยอ่อน พริกไทย ผัดให้เข้ากันแล้วปรุงสรด้วยเกลือป่น น้ำตาลทราย ผงปรุงรส ชิมรสตามชอบ

4.ได้ที่แล้วเอาไก่ที่ทอดไว้ลงผัดคลุกคล้าเบา ๆ ให้ทั่วแล้วโรยใบมะกรูดซอย และพริกแดง ลงไป ..เสร็จ

 

เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ เมนูนี้หอมน่ากินมาก ลองคิดดูซิคะว่า แกล้มกับเบียร์ จะถูกใจนักดื่มมากแค่ไหน หรือหากทานเป็นกับข้าวจะทานกับผักสด ใบยี่หร่าก็ยังได้อีก ลองทำดูกันได้เลยค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูยำปลาซิวกรอบ เคี้ยวเพลินรสชาติหลากหลาย

แอดมินเคยให้สูตรยำสามกรอบมาแล้วนะคะ  ใครที่กำลังหาสูตรยำที่มีรสชาติหลากหลาย ทั้งแซ่บและมีความกรอบด้วย วันนี้ลองทำ “ยำปลาซิวกรอบ” ทานกันดูค่ะ จะทำทานเป็นกับข้าว หรือเป็นกับแกล้มก็ลงตัว วิธีทำก็แสนง่าย คุณผู้ชายจะยำเองก็ได้นะ มาลองดูสูตรกันได้เลยค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.ปลาซิวแก้ว 500 กรัม--ล้างให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ

2.เครื่องยำ--หอมแดงซอย 5 หัว

3.ต้นหอมซอย 5 ต้น

4.พริกขี้หนูสวนสับซอยละเอียด 1.5 ชต.

5.ตะไคร้ซอย 1-2 ต้น

6.ถั่วลิสงคั่ว แกะเปลือก 2 ชต.

7.เครื่องปรุง--น้ำปลา 1 ชต.ซีอิ้วขาว 1 ชต.น้ำมะนาว 2-2.5 ชต. ผงปรุงรสหมู 1.5 ชช. น้ำตาลทราย 1-2 ชช. ผงปรุงรส(หากชอบ)

คื่นช่าย ผักชี ใส่หรือไม่ ตามความชอบ(ทุกอย่างเพิ่ม-ลด ตามความชอบ)

 

วิธีทำ


1.ทอดปลาให้เหลือง กรอบ พักให้เย็น

2.ปรุงน้ำยำ พริกขี้หนูสวนและเครื่องปรุง ชิม ปรับรสตามชอบ

3.นำปลากรอบมาใส่ และผักต่าง ๆ แล้วคลุกให้เข้ากัน

 

เสร็จเรียบร้อยแล้วพร้อมเสิร์ฟเป็นกับแกล้มกับเบียร์ ทานคู่กันอร่อยขึ้นนะคะเนี่ย หรือถ้าทานเป็นกับข้าวจะทานแกล้มใบคะน้า ก็อร่อยสุดยอดเลยค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูหน่อไม้หวานต้มกระดูกหมู หวานหอมทั้งหน่อไม้และซุป

หน่อไม้หวาน.. เป็นอาหารที่มีรสชาติหวานอยู่ในตัวอยู่แล้ว ยิ่งพอเอามาทำต้มจืดก็ยิ่งชวนกินมากขึ้นไปอีก วันนี้มาทำเมนูซดร้อน ๆ คล่องคออย่าง “หน่อไม้หวานต้มกระดูกหมู” กันค่ะ  อากาศเย็น ๆ แบบนี้ทานอาหารร้อน ๆ ลงตัวดี ป้องกันหวัดได้ด้วย มาลงมือกันได้เลย

 

วัตถุดิบ


1.กระดูกหมู(เล้ง) 500-600 กรัม หรือตามชอบ หั่น ล้างตามชอบ

2.หน่อไม้ไผ่หวาน 2 หน่อ - หลังจากเอาเปลือกออก เป็นน้ำหนักประมาณ 1.4 กก. ฝานเปลือกแข็งและโคนแข็งออก ล้าง หั่น ซอย ตามชอบ

3.เกลือป่น 1.5 ชช.

4.ซีอิ้วขาว 5-6 ชต.

5.ผงปรุงรสหมู 1 ชต. ซุปก้อน 1 ก้อน

6.รากผักชี 4-5 ราก ล้าง ทุบ

7.เม็ดเก๋ากี้ 2 ชต. แช่น้ำ

 

วิธีทำ


1.ตั้งน้ำเปล่า 2.5 ลิตร หรือตามชอบ ใส่วัตถุดิบข้อ 3-6 ลงในหม้อ ต้มให้เดือด

2.ใส่กระดูกหมูลงไป รอให้เดือด และคอยตักฟองทิ้ง

3.เดือดแล้วใส่หน่อไม้ลง ต้มต่อไป คอยช้อนฟองทิ้ง และเมื่อเดือดให้เบาไฟลงให้เดือดพอปุด ๆ

4.ใส่เม็ดเก๋ากี้ลง ตุ๋นไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจ และชิมรส ปรับตามความชอบ

 

ตักเสิร์ฟโรยหน้าด้วยพริกไทยป่น และผักชีซอย  สำหรับบางสูตรอาจจะไม่ปรุงรสตั้งแต่เริ่มแรก แต่จะปรุงตอนจะปิดไฟก็ไม่ผิดค่ะ แต่ที่ปรุงก่อนเพื่อให้รสชาติเข้าเนื้อหน่อไม้ เพราะสุดท้ายเราจะชิมตอนที่จะปิดไฟอยู่ดี การชิมก่อนอาจจะรสชาติยังอ่อน เมื่อน้ำงวดลง รสชาติจะเข้มขึ้นค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูข้าวยำปลาทู(ห่อไข่-ไม่ห่อไข่) เมนูประยุกต์สูตรอร่อย

เราเคยทานข้าวผัดห่อไข่ หรือผัดไทยห่อไข่กันมานานแล้วนะคะ  วันนี้ลองมาทำอีกเมนูที่ประยุกต์รวมเอาข้าวยำปลาทูกับข้าวห่อไข่มารวมกัน กลายเป็น “ข้าวปลาทูห่อไข่” ค่ะ พอรวมพลังกันแบบนี้ก็ยิ่งน่าทานขึ้นไปอีก เด็ก ๆ ก็ชอบด้วยนะคะ มาลองทำกันค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.ข้าวสวยร้อน - มากน้อยตามชอบ

2.ปลาทูนึ่ง 2 ตัว - ทอด แกะเอาแต่เนื้อ แบ่งเป็นชิ้นเล็ก หรือตามชอบ

3.กระเทียมสับ - เจียวให้เหลืองหอม

4.หอมแดงซอย 2 ชต. พริกขี้หนูซอย 1-2 ชต. น้ำมะนาว 1-2 ชต.ผงปรุงรสหมู 1 ชช. ต้นหอมซอย 1 ชต.

5.ต้นหอมซอย 1-2 ชต.

6.ไข่ไก่ 1 ฟอง

 

วิธีทำ


1.นำทุกอย่าง มาเทรวมกันในภาชนะใหญ่ คลุกให้เข้ากัน แล้วชิมรสที่ชอบ

2.ตีไข่ไก่ ปรุงรสด้วยผงปรุงรสหมู 0.5 ชช. - ทอดในกะทะให้บางที่สุด

3.1 กรณีห่อไข่ ให้ตักข้าวคลุกแล้ว ใส่ลงไปในไข่และพับปิด 4 ด้าน เอาจานมารอง แล้วคว่ำกะทะลง แล้วใช้มีดผ่าไข่เพื่อเปิดช่อง

3.2 กรณีไม่ห่อไข่ นำไข่ที่ทอดแล้ว มาม้วนและซอยเป็นเส้นตามชอบ

 

หรือหากใครที่ทอดไข่ออกมาแล้วไม่สวย จะทานโดยไม่มีไข่ก็แล้วแต่ความชอบค่ะ แค่นี้เองครับ...ทาน คู่กับซุปร้อน ร้อนอร่อยคล่องคอ ติดใจทุกคนแน่นอน

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูข้าวยำตะไคร้ปลาสลิดทอด อร่อยไม่แพ้ข้าวยำใต้

ถ้าเคยทานข้าวยำปักษ์ใต้มาแล้ว วันนี้มาลองสูตรข้าวยำอีกสักเมนูกันนะคะ กับเมนู “ข้าวยำตะไคร้ปลาสลิดทอด” ที่ก็อร่อยไม่แพ้กันเลย ทำก็ง่ายด้วย  ไขมันต่ำ เหมาะเป็นเมนูสำหรับลดน้ำหนักอีกเมนูเลยค่ะ  มาลองทำทานกันดู

 

วัตถุดิบ


1.ข้าวสวยร้อน - มากน้อยตามชอบ

2.ปลาสลิดแดดเดียว 1 ตัว - ทอด แกะเอาแต่เนื้อ แบ่งเป็นชิ้นเล็ก หรือตามชอบ

3.กระเทียมสับ - เจียวให้เหลืองหอม

4.หอมแดงซอย 2 ชต. พริกขี้หนูซอย 1-2 ชต. น้ำมะนาว 1-2 ชต.ผงปรุงรสหมู 1 ชช. ต้นหอมซอย 1 ชต.

5.ต้นหอมซอย 1-2 ชต.

6.ตะไคร้ซอยละเอียด 2 ชต.

วิธีทำ


1.นำทุกอย่าง มาเทรวมกันในภาชนะใหญ่ คลุกให้เข้ากัน แล้วชิมรสที่ชอบ

 

แค่นี้ก็ได้ข้าวยำสูตรอร่อยที่ใครๆ ก็ต้องติดใจอย่างแน่นอน  ถ้าทานแล้วแห้งฝืดคอ ลองทาน คู่กับซุปร้อนๆ นะคะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูเนื้อปลากรายผัดพริกแกงกับถั่วฝักยาว หอมเผ็ดตลบบ้าน

มาถึงเมนูสุดแซ่บกันอีกสักเมนูค่ะ กับ “เนื้อปลากรายผัดพริกแกงกับถั่วฝักยาว”  อร่อยเหนียวนุ่มเคี้ยวเพลิน อาหารจานเผ็ดร้อนแบบนี้ทำให้ทานข้าวได้เยอะดีนะคะ  คุณผู้อ่านสามารถปรับสูตรจากเนื้อปลา เป็นเนื้อชนิดอื่น ๆ ก็ได้ตามชอบเลย มาลองทำกันดูค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.เนื้อปลากรายขูด 200 กรัม - ตำให้เหนียว

2.ถั่วฝักยาว มากน้อยตามชอบ ---ล้าง หั่นยาว 1 นิ้ว หรือตามชอบ

3.พริกแกงเผ็ด 1.5 ช้อนโต๊ะ

4.ใบกระเพรา ใบมะกรูด พริกแดง

5.ซีอิ้วขาว 1-2 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรสหมู 1 ช้อนชา น้ำตาลทรายครึ่งช้อนชา(หรือน้อยกว่า)

 

วิธีทำ


1.ต้มน้ำให้เดือด ตักเนื้อปลากรายลงใส่ขนาดตามชอบ ต้มให้สุก เมื่อเนื้อปลาสุกจะลอยขึ้นมาเอง ตักพักให้สะเด็ดน้ำ

2.ผัดพริกแกงกับน้ำมันเล็กน้อย เติมน้ำลงไปด้วย ผัดให้หอม แห้งให้เติมน้ำ

3.หอมได้ที่ ใส่เนื้อปลากรายลงไป ผัดให้เข้าเนื้อสักพักใส่ถั่วฝักยาวลงผัด

4.ปรุงรสตามชอบ ได้ที่ใส่พริกแดงซอย ใบมะกรูด ใบกระเพรา ผัดพอสลด.

 

เมนูนี้ทานกับข้าวสวย ไข่เจียว เข้ากันได้ดีค่ะ  สำหรับบ้านไหนที่มีเด็ก ๆ ลองลดพริกแกงลงสักหน่อย จะทำให้ทานได้ง่ายขึ้นนะคะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูลาบหมู แซ่บอร่อย ทานกับข้าวเหนียวอิ่มท้อง

อาหารอิสานอย่างลาบเนี่ย เป็นเมนูที่ทำได้ง่าย แล้วยังทานได้ง่ายอีกด้วยค่ะ  เปลี่ยนจากซื้อเขากินมาทำทานเองในครัวกันดีกว่า กับเมนู “ลาบหมู” แซ่บอร่อย  ทำเองง่ายมาก ปรับรสชาติได้ตามต้องการ  ว่าแล้วมาลงมือทำทานกันได้เลยนะ

 

วัตถุดิบ


1.หมูสับหรือหมูบด 250 กรัม

2.พริกป่น 3 ชช.หรือตามชอบ

3.ผงปรุงรสหมู 1 ชช. ผงปรุงรส 0.5 ชช.(หากชอบ)

4.น้ำปลา 1.5-2 ชต.

5.มะนาว 2-2.5 ชต.

6.ข้าวคั่ว 2 ชต.

7.หอมแดงซอย 3-4 ชต.ต้นหอมซอย 2 ชต. ผักชีซอย 1 ชต. ใบมะกรูดซอย 1 ชช. ใบสะระแหน่

 

วิธีทำ


1.รวนหมูให้สุก หากแห้งเติมน้ำนิดหน่อย

2.ใส่เครื่องปรุงตามข้อ 2 ถึง 5 คนให้เข้ากัน แล้วชิมรสตามชอบ

3.ใสผักและข้าวคั่วลง แล้วคนอีกครั้ง

ตักใส่จานพร้อมเสริฟกับผักสด และข้าวเหนียว.....ง่ายจัง

คุณผู้อ่านสามารถเปลี่ยนเนื้อหมู เป็น เนื้อวัวหรือไก่ ปลามึก ก็ได้ค่ะ  จะทำไก่ย่าง หรือตำส้มตำมาล้อมวงทานด้วยกันก็จัดเป็นมื้ออาหารมื้อหนักในวันหยุดสุดสนุกได้เลยนะ  ทำกันเลยค่ะสุดสัปดาห์นี้

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูข้าวเหนียวเปียกรวมมิตร อร่อยหวานมันทุกคำ

“ข้าวเหนียวเปียก” เป็นขนมหวานไทย ๆ ที่หลายคนโปรดปรานนะคะ  แต่จะทานทีก็ต้องหาซื้อเอา บางเจ้าก็ขี้เหนียวเครื่อง กะทิก็ไม่หอมมัน เอาเสียเลย  วันนี้ค่ะ มาลงมือทำเองกันดีกว่า กับเมนู “ข้าวเหนียวเปียกรวมมิตร” สูตรอร่อย ที่รับรองว่าต้องถูกใจทุกคนแน่นอนเลย

 

วัตถุดิบ



  1. ข้าวเหนียวดำ 1 ถ้วย - ซาวน้ำ ล้าง 2 รอบ แช่น้ำทิ้งไว้ 1-2 ชม.

  2. เผือกหั่นเต๋า 1 ถ้วย หรือตามชอบ

  3. ข้าวโพดหวาน ฝานหรือแกะเอาแต่เม็ด 1/2 ถ้วย หรือตามชอบ

  4. กะทิสด 300 กรัม พร้อมหางกะทิ

  5. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย หรือตามชอบ


 

วิธีทำ



  1. นำข้าวเหนียวดำตั้งไฟ ใส่น้ำให้เกินกว่าข้าวเหนียว เคี่ยวไปเรื่อย ๆ คอยคนอย่าให้ติดก้น น้ำน้อยให้เติมเล็กน้อย

  2. เมื่อข้าวใกล้เละตามที่ต้องการ ใส่หางกะทิลงไป 1-2 ถ้วยแล้วใส่เเผือก แห้ว ข้าวโพด ลงไป

  3. เคี่ยวไปเรื่อย ๆ เมื่อสุกใส่น้ำตาลลงไป น้ำตาลละลายชิมรสหวานตามต้องการ เมื่อได้ที่ ปิดไฟ

  4. เอากะทิตั้งไฟอ่อน ใส่เกลือลงไป 1-2 ชช. คนให้ละลายชิมตามความชอบ หากชอบกะทิสดไม่ต้องตั้งไฟ

  5. ตักข้าวเหนียวใส่ถ้วย โรยด้วยกะทิ ทานร้อน หรือเย็นก็มีความสุขค่ะ


ช่วงอากาศเย็นลงแบบนี้ ทานอุ่น ๆ สักถ้วยก็สบายท้องดีเหมือนกันค่ะ ทำกันเลยนะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูต้มมะระกระดูกหมู ซดร้อนคล่องคอ

มะระ.. เป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูงมากนะคะ  เหมาะมากสำหรับนำมาปรุงเป็นอาหารในช่วงเวลาที่อากาศกำลังเย็นตัวลง  ใครที่สมาชิกในครอบครัวกำลังจะป่วย ลองทำต้มจืดซดร้อน ๆ ทานป้องกันหวัดกันดู กับเมนู “ต้มมะระกระดูกหมู” ค่ะ หวานน้ำต้มกระดูก ทานเปล่า ๆ ก็ลดน้ำหนักได้ดีด้วยนะ

 

วัตถุดิบ


1.กระดูกหมู(เล้ง) 500-600 กรัม หรือตามชอบ หั่น ล้างตามชอบ

2.มะละจีน 2 ลูก - หรือมากกว่า ผ่าเอาใส้ออก ล้าง หั่น ซอยตามชอบ

3.เกลือป่น 1.5 ชช.

4.ซีอิ้วขาว 5-6 ชต.

5.ผงปรุงรสหมู 1 ชต. ซุปก้อน 1 ก้อน

6.รากผักชี 4-5 ราก ล้าง ทุบ

7.เม็ดเก๋ากี้ 2 ชต. แช่น้ำ

 

วิธีทำ


1.ตั้งน้ำเปล่า 2.5 ลิตร หรือตามชอบ ใส่วัตถุดิบข้อ 3-6 ลงในหม้อ ต้มให้เดือด

2.ใส่กระดูกหมูลงไป รอให้เดือด และคอยตักฟองทิ้ง

3.เดือดแล้วใส่มะละลง ต้มต่อไป คอยช้อนฟองทิ้ง และเมื่อเดือดให้เบาไฟลงให้เดือดพอปุด ๆ

4.ใส่เม็ดเก๋ากี้ลง ตุ๋นไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจ และชิมรส ปรับตามความชอบ

 

ตักเสิร์ฟโรยหน้าด้วยพริกไทยป่น และผักชีซอย

 

ปล. บางสูตรอาจจะไม่ปรุงรสตั้งแต่เริ่มแรก แต่จะปรุงตอนจะปิดไฟก็ไม่ผิดค่ะ แต่ที่ปรุงก่อนเพื่อให้รสชาติเข้าเนื้อมะระ เพราะสุดท้ายเราจะชิมตอนที่จะปิดไฟอยู่ดี การชิมก่อนอาจจะรสชาติยังอ่อน เมื่อน้ำงวดลง รสชาติจะเข้มขึ้นค่ะ ลองนำไปทำกันดูนะคะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูซาลาเปาผักกาดขาวไส้ 3 เซียน อร่อยแคลอรี่ต่ำ

วันนี้มาชวนคุณผู้อ่านทำเมนูจานผักสุดอร่อย แถมยังแคลอรี่ต่ำกันอีกจานนะคะ กับเมนู “ซาลาเปาผักกาดขาวไส้ 3  เซียน” นั่นเอง จัดได้ว่าเป็นอาหารจานผักสุดรอร่อย  ผักนุ่มนิ่ม เด็ก ๆ ก็ทานได้ง่ายด้วย  อีกทั้งยังทำเป็นอาหารลดน้ำหนักได้อีกด้วยค่ะ  มาลองทำกันเลย

 

วัตถุดิบ


1.ผักกาดขาว 1 หัว---แกะออกเป็นใบ ๆ ลวกน้ำร้อนให้นิ่มพักไว้

2.กุ้ง 100 กรัม แกะเปลือกผ่าหลังเอาเส้นดำออก ล้าง สับ

3.หมูสับ 100 กรัม

4.เนื้อปู 50 กรัม

5.พริกไทยเม็ด 10 เม็ด รากผักชี 3 ราก กระเทียม 7 กลีบ

6.น้ำตาลทราย 1.5 ชช. ผงปรุงรสหมู 2 ชช.

 

วิธีทำ


1.ตำพริกไทย กระเทียม รากผักชี

2.ใส่เนื้อกุ้งลงตำไม่ต้องละเอียดมาก ใส่เนื้อหมู และปู ลงคลุกหรือตำเบา ๆ ให้เข้ากันจนเนียนดี

3.นำใบผักมาลองก้นถ้วยแล้วตักหมูมาใส่เกลี่ยให้บาง แล้วพับก้านปิด แล้ววางใบผักทับ ทำสลับกันจนพอใจหรือจนเต็มภาชนะ

4.นำไปนึ่งโดนตั้งให้ภาชนะหงายขึ้น 15 - 20 นาที เมื่อสุกแล้ว นำมาคว่ำใส่จานหรือภาชนะที่จะเสริฟอีกที

5.ผ่าแบ่งทานตามชอบ

 

นอกจากนี้ยังมีสูตรน้ำราดอีกด้วยค่ะ  โดยผสม ซีอิ้วขาว 1.5 ชช.ผงปรุงรสหมู 1 ชช. น้ำตาลทราย 3 ชช. คนให้เข้ากัน แล้วราดด้านบนเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นครับ(ไม่เพิ่มก็ได้ครับ) เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี เป็นกับข้าวก็ได้ เป็นของทานเรียกน้ำย่อยก็เข้าทีค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูปลาทับทิมทอดกระเทียม หวานเนื้อปลาหอมกระเทียม

เมนูนี้จัดได้ว่าทานง่ายและน่าจะเป็นอีกเมนูโปรดของทั้งครอบครัวเลยนะคะ กับ “ปลาทับทิมทอดกระเทียม”  มาพร้อมสูตรน้ำจิ้มรสแซ่บ  แค่คลุกข้าวก็อร่อยเด็ดสุดยอดแล้ว  มาลองดูเมนูประจำครัวอีกสักจานกันเลยค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.ปลาทับทิม ขนาดไหนตามใจชอบ---ขอดเกล็ด ควักเหงือกและใส้ออก ล้างและบั่ง คลุกเกลือเล็กน้อยพักไว้

2.กระเทียมมากน้อยตามชอบ----แกะเปลือกออกหมดหรือไม่หมดก็ได้ ตำหยาบ ๆ พักไว้

3.น้ำจิ้ม---พริกไทยเม็ด พริกขี้หนูสวน กระเทียม น้ำปลา มะนาว น้ำตาลทรายผงปรุงรส(หากชอบ)

 

วิธีทำ


1.ตั้งน้ำมันให้ร้อน กะให้น้ำมันท่วมตัวปลา หรือน้ำมันเยอะ ๆ ก็ได้ ทอดปลาไฟกลาง ชอบกรอบแค่ไหนตามใจชอบ พยายามอย่ากลับตัวปลาหากด้านที่ทอดก่อนยังไม่เหลืองพอเพราะเนื้อปลาอาจจะติดกระทะ

2.เมื่อเหลืองได้ที่ตักปลาขึ้นทิ้งให้สะเด็ดน้ำมันแล้วจัดใส่จาน

3.จากนั้นเทน้ำมันออกเหลือไว้เพียงเล็กน้อย ลดไฟลงให้อ่อนแล้วเจียวกระเทียม เมื่อกระเทียมใก้ลเหลือง โรยผฝปรุงรสหมูลงเล้กน้อย แล้วคนให้ทั่ว กระเทียมออกสีนวล ๆ ให้ตักขึ้นเอาแต่กระเทียม โรยบนตัวปลา กระเทียมจะเหลือพอดี และกระเทียมจะออกรสเค็มนิด ๆ

4.น้ำจิ้ม..ตำพริกไทย 4-5 เม็ด หากชอบ ไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ แล้วใส่พริกขี้หนูสวน 3 ส่วน กระเทียม 2 ส่วน (รวมเป็น 5 ส่วน) ตำให้ละเอียดตามชอบ ปรุงรสน้ำปลา มะนาว น้ำตาล ตามชอบ

 

แค่นี้ ก็เป็นเมนูเด็ดได้...อีกแล้วค่ะ ลองทำกันดูโดยไม่ต้องไปสั่งตามร้านให้แพง ๆ เลยนะคะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูยำสามกรอบ สูตร 2 กรอบเคี้ยวเพลิน แซ่บกำลังดี

ใกล้วันหยุดสุดสัปดาห์ ก็ต้องหาเมนูกับแกล้มมาทานกันสักหน่อยค่ะ เผื่อเอาไว้ปาร์ตี้กันวันหยุดในครอบครัวได้ หรือจะทำให้คุณแฟนทานแกล้มเบียร์ก็เข้าท่านะคะ มาดูสูตร “ยำสามกรอบ” อีกสูตรที่ก็อร่อยไม่แพ้สูตรแรกเลยค่ะ  มาลองทำกัน

 

วัตถุดิบ


1.กุ้ง มากน้อยตามชอบ----แกะเปลือก ผาหลัง ทอดให้กรอบ แล้วพักไว้

2.ปลาซิวแก้ว หรือปลาตัวเล็กตากแห้งแบบจีด---ล้าง แล้วทอดกรอบ พักไว้

3.หมึกแห้งตัวเล็ก ----ล้าง หั่น ทอดให้กรอบ พักไว้

4.เม็ดมะม่วงหิมพาน ---- ทอดให้เหลือง พักไว้

5.หอมใหญ่ พริกขี้หนูสวน มะนาว น้ำปลา น้ำตาล ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส(หากชอบ) ต้นหอม คื่นช่าย มะเขือเทศ

 

วิธีทำ


1.น้ำยำ-สับพริกขี้หนูสวนมากน้อยตามชอบ ปรุงรสด้วยมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส ชิมให้ออก 3 รส หรือตามชอบ

2.หั่นต้นหอม คื่นช่าย มะเขือเทศ และหอมใหญ่ มากน้อยตามชอบ แล้วใส่รวมกัน

3.นำของที่ทอดพักไว้มาใส่รวมกันราดด้วยน้ำยำ คลุกเคล้าให้ทั่ว

ตักเสริฟได้เลยค่ะ

 

ในส่วนของของกรอบที่ทอด เปลี่ยนแปลงได้ตามชอบของแต่ละท่านค่ะ จะเป็นกุ้งทอดกรอบ หมึกสดทอด หมูแผ่น ใส่กรอก หรืออื่น ๆ ก็อะไรก็ได้  ทำให้ได้รสชาติที่หลากหลาย  ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ได้ไม่มีเบื่อเลย

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

 เมนูสังขยาเนื้อฟักทอง นุ่ม ๆ อุ่น ๆ มันอร่อย

 

ทำอาหารไทยกันมาหลายเมนูแล้ว ลองมาทำขนมไทย ๆ ทานกันในบ้านบ้างดีกว่าค่ะ กับเมนู “สังขยาเนื้อฟักทอง” นั่นเอง  ฟักทองนี้เป็นผักที่มีประโยชน์มากนะคะ มีวิตามินเอสูง พร้อมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากอีกด้วยค่ะ  สังขยาสูตรนี้เนื้อเนียนละเอียด หอมอร่อย ทำทานแล้วจะติดใจแน่นอน มาดูสูตรกันนะคะ

 

วัตถุดิบ


1.ฟักทองสด 400 กรัม-ปอกเปลือก หั่นชิ้นโต ล้าง

2.ไข่ไก่ 3 ฟอง

3.หัวกะทิ 400 กรัม

4.น้ำตาลมะพร้าว 150-200 กรัม(เพิ่ม-ลด ตามความชอบความหวาน)

 

วิธีทำ


1.ต้มฟักทองให้สุก ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ

2.แบ่งฟักทองบางส่วนหั่นเต๋าตามชอบ 2-3 ชต.

3.บี้เนื้อฟักทองให้เละ เนียน

4.นำไข่ไก่ ฟักทองที่เละ กะทิ น้ำตาล ใส่ลงเครื่องปั่น ปั่นให้เข้ากัน

5.กรองเนื้อที่ปั่นด้วยผ้าขาวบางหรือกระชอยถี่

6.ใส่พิมพ์หรือแบบตามต้องการ

7.นึ่งในซึ้งน้ำเดือด 15-20 นาที ที่ใส่ใบเตยในน้ำเดือด พร้อมเนื้อฟักทองเต๋า

8.สุกแล้วตักฟักทองเต๋า โรยหน้า

**ฟักทองที่ทำเป็นท้อปปิ้ง จะให้ฟักทองหั่นฝอยเชื่อมก็จะอร่อยกว่านะคะ**

 

แล้วเราก็ได้ของหวานที่นุ่มลิ้น เนียน ไม่ต่างกับพุดดิ้งเลย  จะทานเปล่า ๆ หรือทานกับข้าวเหนียวมูนก็ได้ กับไอศกรีมก็อร่อยนะคะ ลองนำไปปรับสูตรทานกันได้เลย

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

 

เมนูต้มมะระยัดใส้สองสหาย(หมู-กุ้ง) ซดร้อน ๆ ได้ประโยชน์

ช่วงที่อากาศเริ่มเย็นลงหรือเข้าฤดูฝน ลองมาทำต้มจืดร้อน ๆ ไว้ทานเป็นกับข้าวกันดีไหมคะ กับเมนู “ต้มมะระยัดไส้สองสหาย” ตัวมะระเองก็เป็นพืชที่มีประโยชน์กับร่างกายมาก ได้ซดน้ำร้อน ๆ แล้วทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น  หากใครกำลังจะเป็นหวัดลองทำทานกันดูค่ะ หรือจะดัดแปลงเป็นเมนูอาหารสำหรับลดน้ำหนักด้วยก็ได้นะ

 

วัตถุดิบ


**สองสหายสำหรับยัดใส้**

1.กุ้งแกะเปลือกแล้ว 100 กรัม สับละเอียด

2.หมูบด 150 กรัม

3.รากผักชี 2 ราก ริกไทยเม็ก 10 เม็ด กระเทียม 10 กลีบ ผงปรุงรสหมู 1 ชช.เกลือป่น 1/4ชช. น้ำตาลทราย 1 ชช.

ตำพริกไทยให้ละเอียด ใส่รากผักชีลงตำ ใส่กระเทียมลงตำ ใส่หมู กุ้ง เครื่องปรุงลง ตำให้เนียน พักไว้

4.มะระ 2 ลูก หั่นท่อนตามต้องการ ควักใส้ แช่น้ำเกลือ 10-15 นาที

5.รากผักชี 4-5 ราก ทุบ

6.ซีอิ้วขาว 5-6 ชต.

7.ซุปก้อน 2 ก้อน

8.เกลือป่น 1 ชช.

9.เห็ดหอมแห้ง แช่น้ำ หั่นครึ่ง 2 ถ้วย

10.แครอท 1 หัว-ปอกเปลือก ล้าง หั่นตามชอบ

11.เม็ดเก๋ากี้ 1-2 ชต.แช่น้ำ

วิธีทำ


1.น้ำ 2 ลิตร ตั้งไฟ ใส่วัตถุดิบข้อ 5,6,7,8 ลงไปรอให้เดือด

2.นำมะระมายัดด้วยใส้ที่เราเตรียม มะระเหลือก็หั่นใส่เป็นชิ้นไป

3.น้ำเดือดใส่มะระลงไปทั้งหมด รอน้ำเดือดอีกครั้ง และคอยตักฟองทิ้ง

4.ใส่เห็ดหอม แครอท เก๋ากี้ลงไป แล้วเบาไปให้เดือดปุด ๆ(เดือดแรงน้ำจะขุ่น) รอจนกว่าจะพอใจและชิมรสตามชอบ

เวลาทานตักใส่ถ้วย โรยพริกไทยป่น-ใบผักชี  ซดร้อน ๆ วันอากาศเย็น ทำให้ร่างกายอบอุ่น แข็งแรงป้องกันหวัดได้ด้วยนะคะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูบะหมี่กะเพราคลุก ง่ายแต่อร่อย อิ่มท้องกำลังดี

เดี๋ยวนี้เราได้เห็นการสร้างสรรค์เมนูจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกันมาเยอะแล้ว  วันนี้ลองอีกเมนูกันนะคะกับ “บะหมี่กะเพราคลุก”  นั่นเองค่ะ  อร่อย เผ็ดร้อน อิ่มท้องกำลังดีเลย มาลองทำกันดูนะ

 

วัตถุดิบ


1.เนื้อ หรือ หมู ตามชอบ 100-150 กรัม-ล้าง หั่นตามชอบ

2.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 3 ซอง-เอาแต่เส้น ลวกน้ำร้อนให้นิ่ม แต่ไม่ต้องนิ่มมาก ล้างน้ำเย็นพักไว้

3.พริกไทย 5-10 เม็ด กระเทียม 10-15 กลีบ พริกขี้หนูสวน 15 เม็ด

4.เครื่องปรุง-ซีอิ้วขาว 2 ชต.น้ำมันหอย 2 ชต.น้ำตาลทราย 1/2 ชต.ผงปรุงรสหมู 1.5 ชช. ผงปรุงรส(หากชอบ)

5.ใบกะเพรา พริกแดงเม็ดใหญ่ ซอยเฉียง

 

วิธีทำ


1.ตำพริกไทยให้ละเอียด ใส่พริก กระเทียมลงตำพอหยาบ

2.นำไปผัดกับน้ำมัน 3 ชต. ให้เหลือง หอม

3.ใสหมู หรือ เนื้อลงไป เติมซีอิ้วขาวเล็กน้อย เริ่มสุก เติมน้ำ 3 ชต.และเครื่องปรุง

4.ชิมรสตามชอบ ได้ที่ ใส่ใบกะเพราและพริกซอยลงไป ผัดพอสลด

5.ใส่เส้นบะหมี่ที่ลวกไว้แล้วลงไปคลุกให้เข้ากันให้ดี ชิมรสหรือปรุงตามชอบอีกครั้ง

ทานเป็นมื้อเบา ๆ หรือหนัก ตามสะดวกเลยครับ

 

สำหรับเมนูนี้นั้นจะเปลี่ยนเนื้อสัตว์บกเป็นอาหารทะเลก็ได้ รวมทั้งเปลี่ยนเป็นเส้นอื่น ๆ ก็ได้ตามใจชอบเลยด้วยค่ะ  อิ่มอร่อยได้ง่ายราคาก็ประหยัด เหมาะกับยุคนี้เลยนะคะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูแคปหมูผัดพริกไข่เค็มถั่วฝักยาว เผ็ดกรอบมันอย่าบอกใคร

แคปหมูหรือกากหมู ที่ได้จากการเจียวน้ำมันหมูเองนั้น  แค่เอามาคลุกเข้าเหยาะน้ำปลา พริก มะนาว ก็อร่อยลืมแล้ว  แต่อย่ากระนั้นเลย เรามาอัพเกรดแคปหมูให้มีมูลค่า เพิ่มหน้าตาให้น่ากินกว่าเดิมกันดีกว่ากับเมนู “แคปหมูผัดพริกไข่เค็มถั่วฝักยาว” นั่นเองค่ะ  เผ็ด กรอบ มัน ทานกับข้าวหมดเป็นหม้อไม่รู้ตัวเลยล่ะ

 

วัตถุดิบ


1.แคปหมู(ได้จากเจียวมันหมูติดหนัง)มากน้อยตามชอบ

2.พริกแกงเผ็ด 2 ชต.

3.ถั่วฝักยาว 7-8 ฝัก ล้าง หั่น 1 นิ้ว

4.ไข่แดงไข่เค็ม 1 ฟอง

5.ใบมะกรูดซอย

6.เครื่องปรุง ซีอิ้วขาว 1 ชต.น้ำตาลปี๊บ 1.5 ชต.ผงปรุงรสหมู 1 ชช.

 

วิธีทำ


1.ผัดพริกแกงกับน้ำมันให้หอม น้ำแห้งให้คอยเติมทีละน้อย

2.หอมได้ที่ ใส่ไข่แดงลงไป ยีให้แตกละเอียด แห้งเติมน้ำเล็กน้อย

3.ใส่ถั่วฝักยาวลงผัด พอสลดปรุงรส ชิมรสตามชอบ(ชิมออกหวาน-เค็ม)

4.ใส่แค๊ปหมูลง และใบมะกรูดซอย ผัดแค่พอเข้ากันไว ๆ

ปิดไฟเสริฟกับข้าวสวยร้อน ๆ ครับ

**กรณีผัดพริกขิง ให้นำขิง ซอย 1 ชต. แล้วตำกับพริกแกงแล้วเอาไปผัด ที่เหลือเหมือนเดิม**

กับข้าวเมนูนี้ ถ้าผัดแห้ง ๆ ก็สามารถเก็บใส่ตู้เย็นไว้ทานได้นานเลยค่ะ คุณแม่ ๆ จะผัดให้ลูก ๆ ไปทานที่หอพักก็ได้ด้วยนะ ลองนำไปทำกันดู

 

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูกุ้งแช่น้ำปลา(สูตรไม่แช่น้ำปลา) กินเป็นกับแกล้ม แซ่บลืม

ใกล้วันหยุดสุดสัปดาห์ก็ต้องนำเสนอเมนูกับแกล้มกันสักหน่อยค่ะ  “กุ้งแช่น้ำปลา” อาหารคู่วงดริ้งค์นั่นเอง  ไม่ต้องไปสั่งตามร้านให้แพง เพราะเราทำเองทั้งอร่อยและประหยัดกว่า  มาลองทำกันค่ะ รับรองเลยว่าสูตรนี้หนุ่ม ๆ ต้องร้องขอเพิ่มอย่างแน่นอน

 

วัตถุดิบ


1.กุ้งสด มากน้อยตามชอบ - หักหัวทิ้ง แกะเปลือก ผ่าหลัง ล้าง แช่น้ำโซดาอ 5-10 นาที เอาขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ

2.น้ำราด - รากผักชี 2-3 ราก พริกขี้หนูสวนสับ 1.5 ชต.กระเทียมสับ 1.5 ชต.น้ำปลา 1.5 ชต.มะนาว 1.5-2 ชต.น้ำตาลทราย 0.5-1 ชช.ผงปรุงรส(หากชอบ)

3.กระหล่ำปลี หรือผักรองจาน

4.มะระจีน - ผ่า ควักใส้ ล้าง หั่นซอย

5.กระเทียมโทนซอย มีหรือไม่มีก็ได้

6.ใบสะระแหน่

 

วิธีทำ


1.ซอยผักรองจานให้ละเอียดเป็นเส้น จัดรองจาน

2.นำกุ้งมาวางเรียงตามชอบ

3.ปรุงน้ำราด นำรากผักชีทุบ สับให้ละเอียด ใส่พริก กระเทียมและปรุงรสตามต้องการ

4.นำมาราดบนตัวกุ้ง โรยกระเทียมโทนซอย ใบสะระแหน่

 

ตักกุ้งเข้าปากเผ็ดแซ่บ แล้วดับด้วยเบียร์เย็น ๆ อร่อยลงตัวที่สุดค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูกุ้งทอดผัดซอสมะขาม อร่อยเด็ดโดนใจทั้งครอบครัว

มาทำเมนูเอาใจทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ๆ ในบ้านกันสักเมนูค่ะกับ “กุ้งทอดซอสมะขาม”  รสชาติกลมกล่อม กำลังดี ทานกับข้าวก็อร่อย  แพ็คใส่กล่องข้าวไปทานที่ทำงานรับรองมีแต่คนอิจฉาค่ะ  มาลองทำเป็นเมนูเด็ดของคุณกันได้เลย

 

วัตถุดิบ


1.กุ้งมากน้อยตามชอบ----ตัดหัว แกะเปลือก ผ่าหลัง ล้าง

2.มะเขือเทศ-----หั่นเต๋า 1 ลูกใหญ่

3.หอมหัวใหญ่ ครึ่งหัว------หั่นเต๋า

4.กระเทียม สับ 1/2 ชต.

6.ผัดโรย ต้นหอม ผักชี

7.เครื่องปรุง-ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย ผงปรุงรสหมู หรือผงชูรส น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ

 

วิธีทำ


1.นำกุ้งคลุกแป้งทอดกรอบไม่ใส่น้ำ ทอดกุ้งด้วยไฟแรง พอสุก พักให้สะเด็ดน้ำมัน

2.ผัดกระเทียมให้หอม

3.ใส่มะเขือเทศ หอมใหญ่ เติมน้ำเล็กน้อย ปรุงรสตามชอบด้วยเครื่องปรุงที่ระบุ เน้น 3 รส(เปรียว เค็ม หวาน)

4.นำกุ้งที่พักไว้ลงผัดแบบเร็ว ๆ โรยใบผักแล้วปิดไฟ

ตักเรียงใส่จาน ทานเป็นกับข้าวก็ได้ครับ

**ใส่พริกขี้หนูเพื่อเพิ่มรสชาติเผ็ดก็ได้ครับ ท่านที่ไม่ชอบไม่ต้องใส่ก็แล้วแต่สะดวกครับ**

หากท่านที่ไม่ชอบกุ้งทอด ก็ให้ข้ามขั้นตอนไป แต่เวลาผัด ให้ผัดกุ้งหลังจากผัดกระเทียมจนหอมแล้ว ที่เหลือเหมือนเดิมค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูแกงใบยอปลาดุก เผ็ดอร่อยได้ประโยชน์

ใบยอ.. เป็นพืชอีกชนิดที่มีสรรพคุณเป็นเลิศต่อร่างกายนะคะ มีวิตามินเอสูงมาก ถือเป็นอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง บำรุงสายตา บำรุงหัวใจ แก้กระษัย แก้ท้องร่วงและขับลมในลำไส้ได้  วันนี้มาลองทำอาหารบ้าน  ๆ แต่รสชาติเผ็ดร้อนอย่าง “แกงใบยอปลาดุก” ทานกันดู  เผ็ดแซ่บอร่อยปากแล้วยังได้ประโยชน์มหาศาลจากใบยออีกด้วยล่ะ

 

วัตถุดิบ


1.ปลาดุก 2-3 ตัว หรือประมาณ 400-500 กรัม-หั่นขวางลำตัว ขย้ำเกลือป่น ล้าง พักไว้

2.พริกแกงเผ็ด 250 กรัม

3.หัวกะทิสด 300 กรัม แยกหางกะทิ

4.ใบยอ มากน้อยตามชอบ ฉีกเอาก้านใบกลางออก ล้างน้ำ พักให้สะเด็ดน้ำ

5.เครื่องปรุง เกลือหรือน้ำปลา ผงปรุงรส(หากชอบ)

วิธีทำ


1.ตักหัวกะทิตั้งไฟ เคี้ยวให้แตกมันแล้วใส่พริกแกงลงผัด

2.ผัดให้หอม คอยเติมหางกะทิเมื่อพริกแกงแห้ง

3.หอมดีแล้ว ใส่ปลาดุกลงไป เกลืยอย่าให้ทับกัน ห้ามคน ใช้การพลิกกลับด้านแทน

4.เมื่อสุกแล้ว เติมหางกะทิเล้กน้อย ผัดพอให้น้ำขลุกขลิก

5.เดือดแล้วใส่หัวกะทิลงไป

6.เมื่อเดือดใส่ใบยอลง กดให้จมน้ำแกง

7.เดือดแล้วปรุงรสตามชอบ เคี้ยวให้ใบเหี่ยวสักพักหรือตามชอบ

 

ปิดไฟแล้วตักใส่ชามเสิร์ฟได้เลยค่ะ  ยิ่งใบยอยิ่งนิ่มก็ยิ่งทานง่ายและอร่อยขึ้นนะคะ อาหารบ้าน ๆ แบบนี้รับรองถูกใจคุณพ่อบ้านทุกคนแน่ค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูไก่อบกะเพรา เคี้ยวเต็มคำหอมกะเพราเต็มปาก

มาดูเมนูงานปาร์ตี้หรืองานรวมญาติกันสักเมนูไหมคะ  “ไก่อบกะเพรา” นั่นเองค่ะ  สูตรนี้รสชาติจัดจ้านแต่ไม่เผ็ด  จะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ถูกปากไปหมด ดัดแปลงไว้ทำอาหารอื่น ๆ ได้อีกหลายแบบด้วย  จะลองเปลี่ยนเป็นเนื้อหมูหรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ก็ย่อมได้ ลองทำกันดูค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.สะโพกไก่(หรือส่วนที่ชอบ) 500 กรัม ล้าง ใช้ส้อมจิ้มไปตามเนื้อไก่

2.เครื่องหมัก-พริกไทย 15 เม็ด กระเทียม 15-20 กลีบ พริกขี้หนูสวนมากน้อยตามชอบ ผงปรุงรสหมู 2 ชช. ซีอิ้วขาว 2 ชต.น้ำมันหอย 2 ชต.น้ำตาลทราย 1 ชช. ผงปรุงรส(หากชอบ)

3.ใบกะเพราสับหยาบ 3 ชต.

 

วิธีทำ


1.ตำพริกไทยให้ละเอียด

2.ใส่พริกขี้หนูและกระเทียม ตำให้ละเอียด

3.นำไปหมักกับเนื้อไก่และเครื่องปรุง พร้อมใบกะเพรา

4.หมักไว้ 30 นาทีหรือแล้วแต่ชอบ

5.นำไปอบไฟ 180-200 องศาเซลเซียส 30-40 นาที หรือแล้วแต่ชอบความสุกและเกรียม หรือนำไปย่างเตาถ่าน

 

เมนูนี้จะทานเปล่า ๆ กับข้าวสวย กับขนมปังปิ้ง เอาไปทำแซนวิช หรือผัดกะเพรา ผัดกับเส้นต่าง ๆ ก็อร่อยไปหมด ลองดัดแปลงกันได้เลย

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูรากบัวเชื่อม หอมหวานชื่นใจ

รากบัว.. เป็นอาหารที่มีประโยชน์มากในทางตำรับยาจีน มีฤทธิ์เย็น จึงแก้ร้อนใน แก้กระหาย แก้ไอ ลดเสมหะได้ค่ะ  วันนี้เรามาทำ “รากบัวเชื่อม” ไว้ทานคลายร้อนกันดีกว่า จะทานเย็น ๆ หรือจะเก็บไว้ทานกับไอศกรีม หรือใส่น้ำเต้าหู้ ก็อร่อย มาลองทำไว้ทานกันนะคะ เด็ก ๆ ต้องชอบแน่ค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.รากบัว(ซื้อในห้างทั่วไป) 1 กก.ปอกเปลือก ล้าง หั่นตามชอบ(ในรูปหั่นเต๋าและขวาง)

2.น้ำตาลทรายขาว หรือแดงตามชอบ 0.5 กก.

3.น้ำสะอาด 1.5 ลิตร

 

วิธีทำ


1.ตั้งน้ำกับน้ำตาลให้เดือด ไฟกลาง

2.ใส่รากบัวลงไป

3.คอยตักฟองทิ้ง เมื่อเดือกให้เบาไฟบอเดือดปุด ๆ

4.ต้มไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำจะงวดลงเหลือน้อยกว่ารากบัว หรือตามชอบ

 

เสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าต้องการเก็บไว้ทานนาน ๆ ก็เก็บใส่โหลแล้วใส่ตู้เย็นไว้นะคะ  เวลาทานจะทานเปล่า ๆ ใส่น้ำแข็งทุบ หรือ ใส่น้ำกะทิแบบแตงไทย   ใส่ไอติม ใส่น้ำเต้าหู้  ใส่ในซีเรียล ก็อร่อย ลองทำกันได้เลยค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูแกงขี้เหล็กหมูย่าง ไฟเบอร์เยอะดีต่อลำไส้

ขี้เหล็ก เป็นพืชที่มีประโยชน์กับร่างกายเรามากนะคะ ช่วยให้ระบายท้องได้ดีเพราะมีไฟเบอร์อยู่เยอะ ลดอาการท้องผูก แล้วยังมีสารที่ช่วยให้นอนหลับได้ง่าย  ทั้งยังมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง บำรุงกระดูกได้ดีเลยทีเดียว  วันนี้เรามาทำเมนู “แกงขี้เหล็ก” ทานกันดีกว่าค่ะ สุขภาพดีแล้วยังอร่อยอีกด้วยนะ มาดูสูตรกันค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.ยอดขี้เหล็กอ่อน เยอะ ๆ -รูดเอาแต่ใบอ่อน>เคี้ยวกับน้ำเปล่าแล้วเทน้ำทิ้ง 2 รอบ>สังเกตดูให้ใบนิ่มเกือบเละ>บีบน้ำให้สะเด็ด

2.สันคอหมูหรือส่วนที่ชอบ ล้าง แล่หนาพอประมาณ ย่างไฟเตาถ่านพอสุก เกรียม แล้วซอยบาง

3.พริกแกงเผ็ด 300 กรัม

4.ปลาย่าง 1 ตัว หรือเนื้อปลาย่าง 50-100 กรัม

5.กะทิสด หัวกะทิประมาณ 600 กรัม แยกหางกะทิ

6.เครื่องปรุง น้ำตาลปี๊บ เกลือป่นหรือน้ำปลา น้ำปลาร้าต้มสุก 1 ชต. ผงปรุงรส(หากชอบ)

 

วิธีทำ


1.ตำปลาย่างให้ละเอียด ใส่พริกแกงลงตำให้เข้ากัน

2.ตั้งหัวกะทิเล็กน้อย เคี้ยวให้แตกมัน

3.นำพริกแกงที่ตำไว้ลงผัด แห้งให้เติมหางกะทิทีละน้อย ผัดจนหอม

4.ใส่หัวกะทิลงไปทั้งหมด

5.เดือดแล้วใส่ขี้เหล็กที่บีบน้ำออกลง คนให้แตกตัว

6.ใส่หมูที่หั่นไว้ลง

7.เคี้ยวไฟอ่อน ๆ หากน้ำน้อยเติมหางกะทิลง เคี้ยวจนใบขี้เหล็กเละหรือตามชอบ

8.ใส่น้ำปลาร้า และปรุงรสตามชอบ

 

เสร็จเรียบร้อยแล้วทานกับข้าวสวยร้อน ๆ มีปลากรอบทานแนม หรือจะทานกับนนมจีนก็เข้ากันอย่าบอกใครเชียวค่ะ ลองนำสูตรไปทำกันดู

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูเต้าส่วนมะพร้าวอ่อนน้ำกะทิสด หอมหวลชวนกิน

วันนี้มาลองทำเมนูขนมหวานไทยโบราณกันสักเมนูนะคะ กับเมนู “เต้าส่วนมะพร้าวอ่อนน้ำกะทิสด” ค่ะ  สูตรนี้หอมด้วยกะทิสด มันถั่วเขียว หอมชวนกินมาก  เมนูนี้หาสูตรได้ไม่ง่ายนะคะ มาลองหัดทำขนมพร้อมทั้งอนุรักษ์อาหารไทยไปด้วยกันเลยค่ะ

 

วัตถุดิบ



  1. ถั่วเขียวผ่าซีก มากน้อยตามชอบ-ล้าง ซาว 3น้ำแล้วแช่น้ำสะอาด 3-4 ชม.

  2. มะพร้าวอ่อน มากน้อยตามชอบ-ผ่า ขูดเอาแต่เนื้อ

  3. หัวกะทิสด มากน้อยตามชอบ

  4. น้ำตาลทราย

  5. แป้งท้าวยายม่อม+แป้งมัน(อัตราส่วน1:1)


 

วิธีทำ



  1. นำถั่วเขียวล้างอีก 1 รอบ แล้วเอาไปนึ่งให้สุก(อาจใส่ใบเตยไปในน้ำที่เดือดจะทำให้หอมขึ้น)

  2. นำแป้งแต่ละชนิดใส่น้ำลงไปเล็กน้อย พอให้คนละลาย แล้วเอามารวมกัน

  3. ละลายน้ำ กับน้ำตาล ตั้งไฟให้เดือด ชิมรสหวานตามชอบแต่ให้หวานกว่าที่ชอบนิดหน่อย(เมื่อใส่ถั่วและแป้งความหวานจะลดลง)

  4. เมื่อเดือดแล้วให้นำแป้งที่ผสมกัน มาใส่ทีละน้อย ค่อย ๆ คนให้เหนียว กะดูตามความชอบความเหนียวหนืด(ควรระวังอย่าให้หนืดมากเมือแป้งเย็นตัวจะหนืดกว่าตอนร้อน)

  5. ใส่ถั่วที่นึ่งและมะพร้าวอ่อนลงไปทีละน้อย คนวนไปเรื่อย ๆ อย่าให้ติดเป็นก้อน เมื่อเข้ากันดีแล้วก็ปิดไฟ

  6. น้ำกะทิ-นำกะทิมาเติมด้วยเกลือป่นทีละน้อย ค่อย ๆ คนไปชิมไป จนเค็มพอใจ(ปรุงเค็มนิดหน่อยจะทำให้กะทิออกรสมัน)


 

ตักเต้าส่วนใส่ถ้วยหรือชาม ราดด้วยน้ำกะทิมากน้อยตามชอบ..แค่นี้ก็อร่อยแบบง่าย ๆ แล้วค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

 

เมนูปลาซิวแก้วทอดกรอบผัดพริกแกง หอมเครื่องแกงอบอวลครัว

มาทำเมนูเสริมแคลเซียมทานกันสักเมนูนะคะ กับเมนู “ปลาซิวแก้วทอดกรอบผัดพริกแกง” นั่นเอง  ปลาเล็กปลาน้อยแบบนี้ให้แคลเซียมกับร่างกายได้สูงเลยค่ะ  เด็ก ๆ ทานได้ด้วย เพราะไม่เผ็ดมากนัก  เปลี่ยนจากปลาหรือเนื้ออื่น ๆ มาเป็นปลาซิวปลาสร้อยแบบนี้ก็กรอบอร่อยไปอีกแบบ ลองทำกันดูเลย

 

วัตถุดิบ



  1. ปลาซิวแก้ว(หรือปลาตัวเล็ก) 200-300 กรัม-ล้าง ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ ทอดให้กรอบ พักไว้

  2. พริกแกงเผ็ด 2-3 ชต.

  3. เครื่องปรุง- ซีอิ้วขาวหรือน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ผงปรุงรสหมู(หากชอบ)

  4. พริกแดงหั่นเฉียง ใบมะกรูดซอยละเอียด


 

วิธีทำ



  1. ผัดพริกแกงกับน้ำมัน 2 ชต.และน้ำ เล็กน้อย ผัดให้หอม และเนื้อเนียน(น้ำแห้งให้เติมทีละน้อย)

  2. ปรุงรสตามชอบ เน้น หวาน-เค็ม

  3. นำปลาที่ทอดลงใส่ โรยใบมะกรูดและพริกหั่นเฉียง

  4. ผัด-คลุกให้เข้ากัน แล้วปิดไฟ


 

ทานเป็นกับข้าว พร้อมกับแกงจืด เข้ากันดีมากค่ะ   แต่หากทำให้เด็ก ๆ ทานจะลดพริกแกงลงหน่อยก็ดีค่ะ เด็กๆ จะได้ทานง่าย ได้แคลเซียมจากปลาเล็กปลาน้อยเสริมสร้างร่างกายได้อีกด้วยค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูยำสามสหาย เคี้ยวเพลินทานกับเบียร์สุดมันส์

มาถึงเมนูทานเล่นอร่อย ๆ กันสักเมนูค่ะ “ยำสามสหาย” นั่นเอง   เป็นเมนูยำที่มีส่วนผสมหลากหลาย  เคี้ยวเพลินในปากได้อารมณ์หลาย Texture ในคำเดียว ทั้งกรอบทั้งมันส์ กินเป็นกับแกล้มเพลินมากเลยค่ะ  มาลองทำกันดู

 

วัตถุดิบ


1.ใส่กรอก(ฮ้อทดอก) มากน้อยตามชอบ----หั่น ผ่า ทอดให้กรอบนอก แล้วพักไว้

2.กุ้ง มากน้อยตามชอบ---เด็ดหัว แกะเปลือก ผ่าหลัง ล้าง แล้วทอด พักไว้

3.เม็ดมะม่วงหิมพาน ---- ทอดให้เหลือง พักไว้

4.หอมใหญ่ มะเขือเทศ ต้นหอม คื่นช่าย หั่น - ซอยตามชอบ

5.น้ำยำ-พริกขี้หนูสวน มะนาว น้ำปลา น้ำตาล(ปี๊บยิ่งดี) ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส(หากชอบ)

วิธีทำ


1.น้ำยำ-สับพริกขี้หนูสวนมากน้อยตามชอบ ปรุงรสด้วยมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย ซีอิ้วขาว ผงปรุงรส ชิมให้ออก 3 รส หรือตามชอบ

2.นำของที่ทอดมาเทรวมกัน พร้อมด้วยผักที่หั่นไว้

3.นำน้ำยำราด คลุกเคล้าให้ทั่ว

ตักเสริฟได้เลย

 

ปล. ของกรอบที่ทอด เปลี่ยนแปลงได้ตามชอบของแต่ละท่าน จะเป็นปลาทอดกรอบ หมึกสดทอด หมูแผ่น รวมไปถึงเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ๆ ด้วยค่ะ จะทำเป็นยำของเหลือในตูเย็นก็ยังได้ด้วยนะคะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูแกงเผ็ดมะระขี้นก เผ็ดมัน ขมนิด ๆ ทานข้าวได้เยอะ

หวานเป็นลม ขมเป็นยาค่ะคุณผู้อ่าน  วันนี้แอดมินขอนำเอาเมนขมนิด ๆ แต่มีประโยชน์มากมาให้ลองทำชิมกัน กับเมนู “แกงเผ็ดมะระขี้นก”  นั่นเอง  ใครที่เคยขยาดความขมของมะระ ลองทำตามสูตรนี้ดู มีวิธีทำให้มะระไม่ขมด้วยนะคะ มาลองทำกันดูค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.มะระขี้นก มากน้อยตามชอบ(ผมใช้ประมาณ 10-12 ลูก)-ผ่า หั่น ล่าง(กรณีเมล็ดในแก่ ให้เอาเมล็ดออกก่อน และหากไม่ชอบขม ให้แช่น้ำเกลือ 10-15 นาที)

2.สันคอหมู หรือหมูส่วนที่ชอบ 100 กรัม-ล้าง หั่นตามชอบ(ไม่ทานหมูเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์ชนิดอื่นตามชอบ)

3.พริกแกงเผ็ด 3 ชต.

4.เครื่องปรุง น้ำปลาหรือเกลือ ผงปรุงรส(หากชอบ)

5..พริกแดงหั่นเฉียง ใบกะเพราะ ใบมะกรูดฉีก

6.น้ำมันพืชหรือน้ำมันหมู 1-2 ชต.

 

วิธีทำ


1.ผัดพริกแกงกับน้ำมัน ใส่น้ำลงไปเล็กน้อย ผัดให้หอม แห้งคอยเติมน้ำทีละน้อย

2.เมื่อพริกแกงหอมและเนียนได้ที่ ใส่เนื้อหมูลงไป พลิก กลับด้าน ผัดให้สุก

3.เติมน้ำเปล่า พอน้ำแกงขลุกขลิก

4.เดือดแล้วใส่มะระลงไป

5.เดือดสักพัก ปรุงรสตามชอบ

6.โรยใบกะเพรา และพริกแดง ใบมะกรูด คนพอสลด ปิดไฟ.

 

ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ แกล้มปลาทอด หรือไข่เจียวก็อร่อยไปหมดเลยค่ะ  ถ้าทานเหลือก็เก็บใส่ตู้เย็นไว้เอาออกมาอุ่นทานในมื้ออื่น ๆ ได้ตามต้องการเลยค่ะ  แล้วคุณจะติดใจมะระตั้งแต่นี้ไปเลย

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

 

เมนูเต้าเจี้ยวหลนเนื้อปู หอมกะทิมันเนื้อปู

จากเมนูที่แล้วเราได้เสนอเต้าเจี้ยวหลนหมูสับกันไปแล้วนะคะ ลองดัดแปลงอีกหน่อย เปลี่ยนมาเป็นเครื่องทะเลอย่างเนื้อปูดู กับเมนู “เต้าเจี้ยวหลนเนื้อปู”  นั่นเองค่ะ  เนื้อปูเป็นเนื้อสัตว์ที่มีความหวานในตัว ซึมซับน้ำซุปได้ง่าย  จึงเข้ากันได้ดีกับกะทิรสชาติหอมมันเลย  มาลองทำทานในบ้านกันดูเลยค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.เนื้อปูแกะแล้ว 150 กรัม

2.เต้าเจี้ยว 100 กรัม---ล้าง บดให้ละเอียด

3.หัวกะทิ 150-200 กรัม

4.เครื่องปรุง น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขาม 3 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส(หากชอบ)

5.หอมซอย 3 ช้อนโต๊ะ พริกเม็ดใหญ่ซอย มากน้อยตามชอบ

6.ผักสดสำหรับแกล้ม

 

วิธีทำ


1.ตั้งหัวกะทิ พอเดือดเต้าเจี้ยวลงไปผัด

2.เดือดอีกครั้งใส่เนื้อปูลงไป ยีให้เนื้อปูแตก

3.เดือดอีกทีปรุงรสตามชอบ

4.ใส่เครื่องเคียงตามข้อ 5 ลงไป เคี่ยวพักพัก ชิมรสอีกครั้ง หากไม่เปลี่ยน ก็เสร็จแล้วครับ

 

ทานแกล้มกับผักสด ๆ ข้าวสวยร้อน ๆ ค่ะ  หรือจะทานเปล่า ๆ ในช่วงไดเอ็ตก็เข้าท่านะคะ  อย่าลืมว่าเนื้อปูนั้นมีกลิ่นได้ง่ายมาก ควรเลือกซื้อและทำแบบสด ๆ ทันทีเลยดีกว่าซื้อแบบที่แกะมานานแล้วจะอร่อยกว่าเยอะค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

 

 

เมนูเต้าเจี้ยวหลนหมูสับ ทานกับผักสดหอมอร่อย

มาถึงเมนูเครื่องจิ้มกันต่ออีกสักเมนูละกันนะคะ กับ “เต้าเจี้ยวหลนหมูสับ”  เป็นเครื่องจิ้มที่มีรสชาติไม่จัดจ้าน เน้นความอร่อยหอมมัน แม้แต่เด็กก็ยังทานได้เลยค่ะ  จิ้มทานกับผักสด ๆ อร่อยมาก รสชาติจากสูตรนี้อร่อยหอมโดนใจทุกคนอย่างแน่นอน  เปลี่ยนจากน้ำพริกเผ็ด ๆ มาทานของอ่อน ๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะคะ มาดูสูตรกันเลย

 

วัตถุดิบ



  1. เนื้อหมูสับละเอียด 150 กรัม

  2. เต้าเจี้ยว 100-150 กรัม---ล้าง บดให้ละเอียด

  3. หัวกะทิ 200-250 กรัม

  4. เครื่องปรุง น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขาม 3 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส(หากชอบ)

  5. หอมซอย 3 ช้อนโต๊ะ พริกเม็ดใหญ่ซอย มากน้อยตามชอบ

  6. ผักสดสำหรับแกล้ม


 

วิธีทำ



  1. ตั้งหัวกะทิ พอเดือดเต้าเจี้ยวลงไปผัด

  2. เมื่อเดือดอีก ให้ใส่เนื้อหมูสับลงไป ยีให้เนื้อหมูแตก

  3. ผัดรวนจนหมูสุก ปรุงรสตามชอบ

  4. ใส่เครื่องเคียงตามข้อ 5 ลงไป เคี่ยวให้งวดลงพักพัก ชิมรสอีกครั้ง หากไม่เปลี่ยน ก็เสร็จแล้วครับ


ทานแกล้มกับผักสด ๆ ข้าวสวยร้อน ๆ ค่ะ หรือจะทานกับผักเปล่า ๆ ในช่วงลดน้ำหนัก ก็อิ่มกำลังดี ถ่ายท้องได้ดีด้วยนะคะ นำไปลองทำกันดู

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูหมูป่าผัดเผ็ด ร้อนแซ่บเคี้ยวสนุกฟัน

มาดูสูตรเมนูอาหารป่ากันสักเมนูค่ะ  กับ “หมูป่าผัดเผ็ด” นั่นเอง  จริงอยู่ว่าเมนูนี้อาจจะหาทานได้ง่ายตามร้านอาหาร  แต่ลงมือทำเองดีกว่ารับรองได้ว่าประหยัดกว่า คุมรสชาติเองได้ ไม่ต้องใส่ชูรสให้ชาลิ้นอีกต่อไป  มาทดลองทำกันดูได้เลยค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.หมูป่า 150 กรัม ล้าง หั่นตามชอบแต่ให้ติดหนังด้วย

2.พริกแกงเผ็ด 2-3 ชต.(ไม่ชอบเผ็ดให้ลด)

3.มะเขือเปราะ มะเขือพวง มากน้อยตามชอบ-ล้าง หั่นแช่น้ำเกลือ

4.กระชายหั่น 2 ชต.-ล้าง พักไว้

5.พริกไทยอ่อน 2 ช่อ-ล้าง หั่นเป็นท่อน

6.พริกแดงเม็ดใหญ่ซอยเฉียง ใบกะเพรา ใบมะกรูดฉีก

7.เครื่องปรุง-เกลือป่น ผงปรุงรสหมู

 

วิธีทำ


1.ผัดพริกแกงกับน้ำมัน เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยเพื่อให้พริกแกงแตกตัวง่าย ผัดจนหอม แห้งให้เติมน้ำทีละน้อย

2.ใส่หมูป่าลงไป ผัดให้สุก เติมน้ำพอขลุกขลิก

3.ใส่มะเขือ กระชายและพริกไทยอ่อนลงไป ผัดให้สุก

4.ปรุงรสตามชอบ

5.ได้ที่ใส่ใบกะเพรา ใบมะกรูดและพริกซอย ผัดพอสลดแล้วปิดไฟ

ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ซดน้ำซุปตาม.

 

สูตรที่ให้ในวันนี้รสชาติค่อนข้างเผ็ดร้อนเลยทีเดียวค่ะ  ถ้าทานเผ็ดมากไม่ได้ ก็ลดพริกแกงลงได้ตามต้องการเลยนะคะ อีกประการก็คือ หากไม่ชอบหมูป่าซึ่งมีชั้นหนังค่อนข้างเหนียว จะเปลี่ยนเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ ปลาดุก ปลาช่อนก็ได้  ลองนำไปปรับใช้กันได้เลยค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูน้ำตกคอหมูย่าง-ข้าวเหนียวใบเตย ทั้งแซ่บทั้งหอมยั่วน้ำลายสุด ๆ

วันนี้นำเสนอเมนูแบบแพ็คคู่เลยค่ะ ทั้ง “น้ำตกคอหมูย่าง” และ “ข้าวเหนียวใบเตย” หอมกรุ่นด้วย  ครบมื้ออาหารเลยทีเดียว เตรียมผักสดมาทานแนมอีกหน่อย อิ่มท้องได้สบาย ๆ เลยนะ  สำหรับใครที่ชอบหรือทานเนื้อวัวจะเปลี่ยนเป็นเนื้อสันนอกก็ได้ค่ะ อร่อยไม่ต่างกันเลย ส่วนสูตรข้าวเหนียวนี้จะเอาไปหุงทานกับกับข้าวอื่น ๆ ก็ได้ตามต้องการ จะทดลองทำขายดูก็น่าจะขายดีด้วยนะคะ เพราะไม่ค่อยมีคนทำขายเท่าไร  มาดูสูตรกันเลยค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.คอหมู 1 ชิ้น(ในรูปใช้ครึ่งชิ้น นน.ประมาณ 120 กรัม)ล้าง

2.ต้นหอม ผักชีฝรั่ง ซอย 2 ชต.ใบสะระแหน่

3.หอมแดงซอย 1-2 ชต.

4.พริกป่น 1-2 ชช. ข้าวคั่ว 1-2 ชช.

5.น้ำมะนาว 1.5 ชต.น้ำปลา 1 ชต.ซีอิ้วขาว 0.5 ชต.(เพื่อให้หอม)

6.ข้าวเหนียว มากน้อยตามชอบซาว 2-3 น้ำ แช่ไว้ 5-6 ชม.

7.ใบเตย 4-5 ใบ

 

**วิธีทำน้ำตก


1.นำคอหมูไปย่างไฟแรงพอเกรียม ๆ ด้านนอก แล้วซอยตามชอบ

2.นำคอหมูที่ซอยแล้ว ใส่ภาชนะตั้งไฟ ใส่น้ำเล็กน้อย คนให้สุก

3.ปรุงรสตามชอบ

4.ใส่หอมแดง และใบผักซอย พร้อมข้าวคั่ว แล้วคนให้เข้ากัน

ตักใส่จาน

 

**วิธีทำข้าวเหนียวใบเตย


1.ซาวข้าวเหนียวพักให้สะเด็ดน้ำ

2.นำใบเตยมาหั่นละเอียด แล้วใส่ครกตำให้ละเอียด

3.เติมน้ำสะอาด 1 ถ้วยหรือน้อยกว่าแล้วแต่ปริมาณข้าวเหนียว กรองเอากากออก

4.นำข้าวเหนียวมาแช่ในน้ำใบเตย 15-20 นาที

5.นำไปนึ่งจนสุก

พร้อมเสริฟทานกับน้ำตกคอหมูย่างแล้วครับ

อร่อยแซ่บลืมขนาดนี้ จะทำทานกันในครอบครัว หรือแพ็คไปทานที่ออฟฟิศก็รับรองเพื่อนร่วมงานอิจฉาตาลุกแน่ค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูหัวไชเท้าดองหวาน กรอบอร่อยกินแนมกับอะไรก็อร่อย

วันนี้จะมาชวนคุณผู้อ่านลงมือถนอมอาหารกันค่ะ กับเมนู “หัวไชเท้าดองหวาน” นั่นเอง  ทำเก็บไว้ทานได้นาน  จะเอามาทานกับข้าวต้ม หรือทานแนมกับกับข้าวเผ็ดอื่น ๆ ก็ลงตัว  ราคาประหยัด ไม่ต้องซื้อหา หรือจะทดลองทำขายก็ยังได้นะคะ ของอร่อยสะอาดแบบโฮมเมดแบบนี้ รับรองขายดีแน่นอนเลยค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.หัวไชเท้า 3 กก. เลือกหัวโต ๆ เท่า ๆ กัน ผิวเรียบจะดีกว่าผิวหยาบ ล้าง ตัดหัว ท้าย

2.เกลือป่น 1 ถ้วย

3.น้ำตาลทราย 3 ถ้วย

4.น้ำผึ้ง 4-5 ชต.

 

วิธีทำ


1.นำหัวไชเท้ามาตัดเป็นท่อน ยาวประมาณ 4-5 นิ้ว แล้วผ่าให้เป็น 4 หรือ 6 ชิ้น(ขึ้นอยู่กับขนาดของหัว)

2.นำเกลือป่นมาคลุกและขย่ำ ให้ทั่ว(หากใส่เกลือมาก อาจจะเค็มเกิน)

3.ทิ้งไว้ 2-3 ชม.(หากทิ้งไว้นาน จะเค็มเกิน)

4.นำมาล้างน้ำ (หากชอบออกเค็ม ไม่ต้องล้าง)

5.แล้วนำไปตากแดด 4-5 แดด(ถ้าชิ้นใหญ่ต้องตากนานกว่าชิ้นเล็ก และควรตากให้สีขาวของหัวไชเท้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ๆ)

6.นำไปล้างน้ำ ทิ้งให้สะเด็ดน้ำ

7.นำน้ำตาลผสมน้ำกะให้น้ำพอท่วมหัวไชเท้า คนให้น้ำตาลละลายและใส่น้ำผึ้งลงไป ทิ้งไว้ให้เย็น(บางสูตรใส่ข่า 2-3 แว่นไปขณะที่ต้มน้ำ)

8.เมื่อเย็นแล้ว นำภาชนะที่ปิดฝาได้ มาใส่หัวใชเท่า และเทน้ำเชื่อมไป ปิดฝา

9.รอเวลา 6-7 วันหรือจนกว่าหัวไชเท้าจะดูดน้ำเชื่อมจนดูเต่งตึง หรือลองชิม เอาขึ้นจากน้ำเชื่อม ใส่โหลแช่เย็นไว้ทาน

 

เวลาจะทานก็เอาออกมาหั่นใส่จานทานเย็น ๆ กับข้าวต้มร้อน ๆ ลงตัวสบายท้องสุด ๆ เลยค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

 

เมนูต้มแซบเนื้อ อร่อยเผ็ดร้อน อุ่นท้องโดนใจ

เข้าฤดูฝนแล้ว มาลองทำอาหารจานร้อนทานกันสักเมนูกับ “ต้มแซบเนื้อ” ที่อร่อยเผ็ดแซ่บ อุ่นท้อง อบอุ่นใจ ตัวเนื้อก็เคี้ยวนุ่มสนุกฟันได้อีก  จะทำเป็นกับข้าวก็ติดใจทุกคน  หรือจะทำเป็นกับแกล้มในวงเหล้า ก็รับรองได้ว่าต้องมีร้องขอชามต่อไปแน่นอน  มาเลยค่ะคุณแม่บ้าน มาลงมือทำจานเอกของคุณกันอีกสักจานนะคะ

 

วัตถุดิบ


1.เศษเนื้อหรือเนื้อส่วนที่ชอบ มากน้อยตามชอบ ล้าง หั่นขนาด 1 นิ้ว

2.เครื่องต้มแซบ พริกไทยดำ 1 ชต.ข่าหั่น 2 ชต.ตะไคร้หั่น 2 ชต.ใบมะกรูดฉีก 2 ชต.หอมแดงทุบ 5 หัว ซีอิ้วขาว 4-5 ชต.เกลือป่น

3.เครื่องปรุง น้ำมะขาม น้ำมะนาว น้ำปลา พริกป่น ข้าวคั่ว

4.ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่งซอย ใบสะระแหน่

 

วิธีทำ


1.ต้มน้ำพร้อมใส่เครื่องต้มแซบ

2.น้ำเดือด ใส่เนื้อที่หั่นลงไป

3.เดือดเบาไฟ แล้วคอยตักฟองทิ้ง ปล่อยให้เดือดปุด ๆ 2-3 ชม.หรือจนเนื้อเปื่อยตามต้องการ

4.ตักใส่ชาม ปรุงรสตามชอบ

5.โรยใบผักและข้าวคั่ว

เอาไว้ทานกับข้าวเหนียวใบเตย น้ำตกคอหมู เมื่อโพสก่อนเลยค่ะ  วันไหนนึกอยากทานอะไรร้อน ๆ ก็ลองทำไว้ซดน้ำซุปอร่อยได้นะคะ

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูก๋วยจั๊บไทย-ญวน น้ำข้น อร่อยเส้น อร่อยซุป

มาทำอาหารจานเดียวทานกันบ้างดีกว่าค่ะ กับเมนูผสมสองชาติเข้าหากันได้อย่างอร่อยลงตัว “ก๋วยจั๊บไทย-ญวน น้ำข้น” นั่นเอง  สูตรนี้อร่อยมาก เครื่องก็เพียง ทานกับหมูกรอบอร่อยมัน อิ่มท้อง อร่อยไปหมดทั้งเส้น ทั้งน้ำซุปเข้มข้นหอมหวาน  ว้า..พูดแล้วนำลายสอเลยค่ะ มาดูสูตรอร่อยสูตรนี้กัน

 

***วัตถุดิบ..น้ำก๋วยจั๊บ


1.เครื่องพะโล้ 1-2 ชุด

2.น้ำตาลปี๊บ 100-150 กรัม

3.กลือป่น 1-2 ชช.

4.ซีอิ้วขาว 5 ชต.ซีอิ้วดำ 1 ชต.ซ๊อสฝาเขียว 2-3 ชต.น้ำมันหอย 2 ชต.ซุปก้อน 1 ก้อน

5.รากผักชี 4-5 ราก

 

***วัตถุดิบ..เครื่องก๋วยจั๊บ


1.ก๊วยจับญวนแบบแห้ง 1 ห่อ แช่น้ำสะอาด 30 นาที - 1 ชม.

2.เนื้อหมู 100-200 กรัม

3.ตับหมู 100 กรัม

4.หมู 3 ชั้น 200 กรัม ผงปรุงรสหมู 2 ชช.

5.ไข่เป็ด ต้มให้สุก แกะเปลือก มากน้อยตามชอบ

6.เต้าหูทอด ตามชอบ หั่นบาง

7.กระเทียมสับละเอียดหรือตำ 2 ชต.เจียวให้เหลืองหอม(เดี๋ยวใช้กะทะต่อ)

8.ผักโรย ผักชีฝรั่ง ต้นหอม คื่นช่าย ซอยหยาบ

 

***วิธีทำน้ำก๋วยจั๊บ


1.ปิ้งเครื่องเทศ (โป๊ยกั๊ก อบเชย)ให้หอม

2.เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำเล็กน้อย จนเป็นตังเมสีออกเกือบไหม้

3.ใส่เครื่องเทศลงไปในน้ำตาลและน้ำเปล่า1.5-2 ลิตร และผงพะโล้ เครื่องปรุงทุกอย่างลงไปพร้อมรากผักชี

4.ต้มไปเรื่อย ๆ นาน ๆ เพื่อให้กลิ่นเครื่องเทศออก ต้มจะเหลือน้ำประมาณ 1.5 ลิตร ชิมรสตามชอบ

5.ไข่-นำไข่ต้มที่ปอกเปลือกแล้วมาใส่ ต้มไป 10 นาทีเพื่อให้ไข่สีเข้ม ตักไข่ออกจากน้ำแยกไว้

6.เนื้อหมู ตับ-กระทะที่เจียวกระเทียม ตัดน้ำพะโล้ 4-5 ชต ใส่กระทะแล้วเอาตับ และเนื้อหมูลงคลุก ผัดจนน้ำเกือบแห้ง แล้วใส่น้ำเปล่าใหม่อีก พอท้วมหมูและตับ ต้มจนสุกดี

7.หมูกรอบ-นำหมู 3 ชั้นมาล้าง กรีดหนังด้วยปลายมีด และคลุกกับผงปรุงรสหมู 2 ชช. ทิ้งไว้ 10 นาที นำไปอบให้หนังกรอบ

8.เส้นก๋วยจั๊บ-เทน้ำที่แช่เส้นออก นำเส้นใส่หม้อและเอาน้ำสะอาดใส่พอเสมอเส้น ต้มด้วยไฟกลาง เมื่อเดือดแล้วเบาไฟ กะให้เส้นสุก ตักเอาแต่เส้นพักไว้

 

ตักเส้นใส่ชาม หั่นหมูและตับบาง ๆ วางบนเส้น และสับหมูกรอบใส่ เต้าหู้ใส่ ตักน้ำราด ผ่าไข่วาง โรยใบผัก และกระเทียมเจียว พริกไทยป่น  ทานกันได้แสนอร่อยทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ จนถึงผู้สูงอายุเลยด้วยค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูน้ำตกเนื้อน่องลาย เป็นกับข้าวก็เลิศ กับแกล้มก็ลงตัว

เมนูเผ็ดร้อนแซ่บยังคงเป็นที่นิยมกันอย่างต่อเนื่องนะคะ  วันนี้เอาเมนู “น้ำตกเนื้อน่องลาย” มาฝากค่ะ  เห็นเป็นเมนูธรรมดา แต่อร่อยเด็ดจนกลายเป็นจานเอกของคุณได้เลยนะคะ เพราะสูตรนี้อร่อยมากค่ะ  จะทานเป็นกับข้าวก็เหมาะ หรือทานกับส้มตำ ทานเป็นกับแกลมก็ยังได้  ว่าแล้วมาลงมือกัน

 

วัตถุดิบ


1.เนื้อน่องลาย 250 กรัม ล้าง หั่นบาง ๆ

2.ต้นหอม ผักชีฝรั่ง ซอย 2 ชต.ใบสะระแหน่ ใบมะกรูดซอย

3.หอมแดงซอย 1-2 ชต.

4.พริกป่น 2-3 ชช. ข้าวคั่ว 1 ชต.

5.น้ำมะนาว 2-3 ชต.น้ำปลา 2 ชต.ซีอิ้วขาว 0.5 ชต.(เพื่อให้หอม)

 

วิธีทำ


1.นำเนื้อที่หั่นไว้ รวนให้สุกโดยใส่ซีอิ้วขาวเล็กน้อย

2.ปรุงรสตามชอบ

3.ใส่หอมแดง และใบผักซอย พร้อมข้าวคั่ว แล้วคนให้เข้ากัน

ตักใส่จาน ทานกับข้าวเหนียว หรือจะรินเบียร์ใส่แก้วทานแกล้มกัน ก็ดื่มได้ลื่นคอขึ้นเยอะเลยค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

 

เมนูเนื้อน่องลายผัดฉ่า หอมตลบครัว ชวนหิวข้าว

เอาเมนูอร่อยเผ็ดร้อนมาฝากอีกจานแล้วค่ะ อาหารรสชาติจัดจ้านแบบนี้ทำให้กินข้าวได้เยอะดีนะคะ  กับเมนู “เนื้อย่างน่องลายผัดฉ่า” ค่ะ  เวลาผัดกลิ่นหอมตลบอบอวลกันเลยทีเดียว ระวังนะคะผัด ๆ อยู่ ข้างบ้านจะแอบมาดูว่าคุณผัดอะไร ว่าแล้วก็ตักเผื่อกันได้เลยค่ะ รับรองได้เลยว่าติดใจแน่นอนทุกราย  มาลงมือทำกันเลยค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.เนื้อน่องลาย 150 กรัม ล้าง หั่นบาง ๆ

2.พริกไทยดำ กระเทียม พริกขี้หนูสวน -ตำพริกไทยให้ละเอียด และใส่พริก กระเทียมลงตำพอแหลก

3.พริกไทยอ่อย 3 ช่อ พริกแดงซอย ตะไคร้ 1 ต้นซอยละเอียด กระชายซอย

4.เครื่องปรุง ซีอิ้วขาว 1 ชต. น้ำมันหอย 1 ชต. น้ำตาลทราย 1 ชช. น้ำมันงา 1 ชต.

5.ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ

 

วิธีทำ


1.ผัดพริกที่ตำกับน้ำมันให้หอม

2.ใส่เนื้อลงผัด (ผมเติมไวน์ขาวไป 3 ชต.กลิ่นหอมมาก) ให้พอสุก

3.เติมน้ำเล็กน้อย ปรุงรสตามชอบ

4.ใส่เครื่องในข้อ 3และ4 ลงไปผัดพอสลด

 

ตักใส่จานโรยพริกไทยป่นพร้อมทานได้ทันที บอกแล้วไงคะ..ว่าอร่อยสมกับที่ฉุนตลบครัวจริง ๆ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

 

เมนูยำเนื้อย่างขมิ้นขาว อร่อยแซ่บแซมกรุบกรอบ

แค่เห็นหน้าตาน้ำลายไหลแล้วค่ะ สำหรับ “ยำเนื้อย่างขมิ้นขาว” จานนี้  สูตรนี้หาทานได้ยากนะคะ เพราะเป็นสูตรเฉพาะตัวที่ไม่ค่อยมีใครมาเปิดเผยกัน  ลองทำทานกันค่ะกับเมนูที่นำเอาขมิ้นขาวมาเป็นส่วนประกอบแบบนี้  เวลาเคี้ยวในปากทั้งแซ่บทั้งมันเนื้อ แถมยังยังได้ความหอมกรุบเคี้ยวเพลินจากขมิ้นขาวอีกด้วย มาลงมือทำกันเลย

 

วัตถุดิบ


1.เนื้อติดมัน เนื้อเสื้อร้องให้ หรือเนื้อส่วนทีชอบ 200 กรัม ล้าง หมักซีอิ้วขาว

2.น้ำยำ น้ำปลา 1.5 ชต.ซีอิ้วขาว 1.ชต.น้ำตาลปี๊บ 1 ชต.พริกขี้หนูสับ 1 ชต.น้ำมะนาว 2 ชต.

3.ขมิ้นขาว50-70 กรัมหรือตามชอบ ซอยบาง

4.หอมแขก 2 หัว ซอย

5.ต้นหอมหั่น 2 ชต.คื่นช่าย 2 ชต.

6.แตงไทย หรือแตงกวา ซอย 1 - 2 ลูก

 

วิธีทำ


1.ย่างเนื้อให้สุกตามชอบ แล้วซอยบาง

2.ปรุงน้ำยำ ชิมรสตามชอบ

3.นำเนื้อและผักพร้อมผักโรย และน้ำยำ เทรวมกันแล้วคลุกให้เข้ากัน

4.ชิมและปรุงรสตามชอบอีกครั้ง

 

ตักใส่จาน เสริฟเป็นกับข้าว ทานเล่น หรือกับแกล้ม ก็เข้ากันได้ดีไปหมดเลยค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูตำไทยปลากรอบ อร่อยเบา ๆ หลากรสในจานเดียว

มีอยู่ไม่กี่เมนูหรอกค่ะ ที่ถ้าได้แย่งกันทานแล้วจะอร่อยกว่าทานคนเดียวเสมอ  เมนูนั่นคือ ส้มตำ นั่นเอง  วันนี้เราจะมาแนะนำสูตรให้ทำทานกันเองในบ้าน แบบมีออปชั่นเพิ่มมากกว่าตามร้านค่ะ กับสูตร “ตำไทยปลากรอบ”  รสชาติแซ่บอร่อยกำลังดี ได้ความกรอบของปลามาช่วยตัดรสให้ทานได้เพลินขึ้น  เสาร์-อาทิตย์นี้ลองทำกันเลยค่ะ รับรองว่าล้อมวงกันแป๊บเดียวเกลี้ยงถาดแน่นอน

 

วัตถุดิบ


1.ปลาซิวแก้วสด-ล้าง พักให้สะเด็ดน้ำ ทอดในน้ำมันให้กรอบ

2.มะละกอ-ปอกเปลือก ล้าง ขูด เป้นเส้นตามชอบ แช่น้ำเย็นจัด

3.มะเขือเทศสีดา 3 ลูก

4.ถั่วฝักยาว 2 ฝัก

5.ถั่วลิสงคั่ว มากน้อยตามชอบ

6.น้ำปลา 3 ชต.น้ำตาลปี๊บ 1-1.5 ชต.มะนาว 2-3 ชต.

7.กุ้งแห้ง 1 ชต.

8.กระเทียม 10 กลีบ พริกขี้หนูสวนตามชอบ

 

วิธีทำ


1.ตำกุ้งแห้งให้แตก นุ่ม

2.ใส่พริก กระเทียมลงตำพอแตก

3.ใส่ถั่วฟักยาวหั่น 1 นิ้ว ตำพอแตก

4.ใส่ถั่วลิสงคั่ว ตำพอแตกตามชอบ

5.ปรุงรส น้ำปลา น้ำตาล มะนาว ชิมตามชอบ

6.ฝานมะเขือเทศใส่ จับเส้นมะละกอให้สะเด็ดน้ำใส่

7.ตำเบา ๆ พร้อมกับคลุกให้เข้ากันให้ทั่ว ชิมรสอีกครัง

ตักใส่จาน โรยถั่วลิสงคั่วและปลากรอบ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูยำดอกขจรกุ้งสด สูตรไดเอ็ตแสนอร่อย

สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก ครั้นจะทานแต่สลัดทุกวันก็คงเลี่ยนนะคะ วันนี้ลองเปลี่ยนมาทานเป็นเมนูยำแซ่บๆ กันบ้างดีกว่า กับเมนู “ยำดอกขจรกุ้งสด” นั่นเอง  จะทานเป็นกับข้าวหรือทานเปล่า ๆ มื้อเย็น ก็อร่อยได้แบบเบา ๆ  ไม่อ้วนเลยด้วยเพราะแทบไม่มีไขมันเลย แถมยังได้วิตามินและสารอาหารจากดอกขจรแสนอร่อยได้อีก  มาลองดูสูตรนี้กันได้เลย

 

วัตถุดิบ


1.กุ้งสด 4-5 ตัวหรือตามชอบ แกะเปลือก ผ่าหลัง แช่ในน้ำโซดา แล้วลวก แช่น้ำเย็น พักให้สะเด็ดน้ำ

2.ดอกขจร มากน้อยตามชอบ ตัดก้านใหญ่ออก ล้าง ลวกในน้ำเดือด แช่น้ำเย็น พักให้สะเด็ดน้ำ

3.น้ำยำ-น้ำมะนาว 2-2.5 ชต.น้ำปลา 1.5 ชต.ซีอิ้วขาว 1 ชต.น้ำตาลปี๊บ 1.5-2 ชต.

4.ผัก-ต้นหอม 1-2 ต้น คื่นช่าย 1-2 ต้น ล้าง หั่นตามชอบ

5.หอมแขก 2 หัว หรือหอมดง 3-4 หัว ปอกเปลือก ล้าง ซอยตามชอบ

 

วิธีทำ


1.ปรุงน้ำยำชิมรสตามชอบ

2.นำดอกขจร หอม ใบผักใส่รวมกัน

3.ราดด้วยน้ำยำ คลุกให้เข้ากัน

ตักใส่จาน เสริฟได้เลยครับ

 

สำหรับเมนูยำแบบนี้ หากต้องการแพ็คไปทานนอกบ้าน หรือยังไม่ทานทันที ควรแยกน้ำยำไว้ก่อนดีกว่าค่ะ เมื่อไรที่จะทานก็ค่อยคลุกรวมกัน อร่อยกว่า ผักไม่สลดด้วยค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูแกงเผ็ดเนื้อสับถั่วฝักยาว เข้มข้นจัดจ้าน ทานข้าวได้เยอะ

เมนูแกงเผ็ด เป็นอีกเมนูประจำครัวไทยภาคกลางอีกเมนูเลยทีเดียวค่ะ รสชาติกลมกล่อมจัดจ้าน เผ็ด เค็ม ลงตัว ทานกับข้าวหรือแนมผักสดก็เจริญอาหารดี  วันนี้นำเอาสูตร “แกงเผ็ดเนื้อสับถั่วฝักยาว” มาฝากกันค่ะ สูตรนี้อร่อยเลยทีเดียว ใครไม่ชอบทานเนื้อวัวก็เปลี่ยนเป็นหมู หรือไก่สับแทบก็ได้นะคะ ว่าแล้วมาลงมือทำกันเลย

 

วัตถุดิบ


1.เนื้อ 100-150 กรัม ล้าง หั่น สับละเอียด

2.พริกแกงเผ็ด 2 ชต.

3.ถั่วฝักยาว 10 ฝัก-ล้าง ซอยชิ้นเล็ก ๆ

4.เครื่องปรุง น้ำปลาหรือเกลือ ผงปรุงรสหากว่าชอบใส่

5.พริกเม็ดใหญ่ซอยเฉียง ใบกะเพรา ใบมะกรูดฉีก

6.น้ำมัน 2 ชต.

 

วิธีทำ


1.ผัดพริกแกงกับน้ำมัน ให้หอมและเนียน คอยเติมน้ำทีละน้อยเมื่อแห้ง ผัดจนหอม พริกแกงเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน

2.ใส่เนื้อสับลงไป ผัดให้สุก ใช้วิธีพลิกกลับ แทนการยีและคน เมื่อสุกแล้วจึงยีให้แตกได้

3.เติมน้ำสะอาดพอประมาณ กะดูพอให้ท่วมเมื่อใส่ถั่ว รอให้เดือด

4.เดือดแล้วใส่ถั่วลงไป พร้อมปรุงรส

5.เมื่อเดือด ชิมรสตามชอบ ได้ที่แล้วโรยใบผักและพริกซอย ไม่ต้องให้เดือดนานเพราะถั่วสุกไว

 

ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ แนมกับผักสด หรือหัวไชเท้าดองหวาน หรือจะทานกับขนมจีนก็ได้ค่ะ   หากต้องการเก็บไว้ทานข้ามมื้อก็ให้แช่ตู้เย็นไว้นะคะ เอาออกมาทานมื้อต่อไป อุ่นแล้วยิ่งเข้มข้นขึ้นด้วยค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

 

เมนูน้ำพริกตาแดง เผ็ดร้อนเก็บไว้ทานได้นานวัน

น้ำพริก..จัดได้ว่าเป็นเมนูกันตายอีกเมนูในบ้านเลยค่ะ ถ้าทำแบบแห้งแล้วเก็บใส่กระปุกไว้ก็เก็บทานได้นานวันกันเลย  อย่างวันนี้เราจะมาแนะนำเมนู “น้ำพริกตาแดง” ค่ะ สูตรนี้อร่อยมาก ลองทำชิมดูสิ  เก็บไว้ในตู้เย็นทานได้นาน จะทานกับข้าวสวย ข้าวผัด หรือไข่เจียวก็อร่อย  แล้วบางทีคุณอาจนึกอยากขายน้ำพริกขึ้นมาบ้างก็ได้นะ

วัตถุดิบ(สำหรับ 1 ถ้วยกลาง ๆ)


1.พริกชี้ฟ้าแห้ง 80-100 กรัม(ชอบเผ็ดจะเพิ่มหรือเปลี่ยนเป็นพริกขี้หนูแห้งก็ได้) เด็ดขั่ว

2.หอมแดง 15 หัว

3.กระเทียมไทย 2 หัว

4.เนื้อปลาต้มสุก 100 กรัม(ปลาสดต้มกับน้ำเดือด ใส่เกลือเล็กน้อย สุกแล้วแกะเอาแต่เนื้อล้วน/ ผมใช้เนื้อปลาดุก เพราะจะมีความมันดีกว่า)

5.กะปิ 1 ขต. ย่างไฟให้หอม

6.น้ำมะขาม 4-5 ชต.(ปรับลด-เพิ่ม ตามความชอบ บางสูตรใช้มะขามสับละเอียด จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำพริกมากขึ้น แต่ควรลดอัตราส่วน)

7.น้ำตาลปี๊บ 1 ชต.(ปรับลด-เพิ่ม ตามความชอบ)

8.น้ำปลา 2-3 ชต.(ปรับลด-เพิ่ม ตามความชอบ)

9.น้ำมันพืช 1 ชต.

วิธีทำ


1.คั่วพริกแห้งพอเกรียม ๆ

2.คั่วหอม กระเทียม คอยพรมน้ำเล็กน้อย เพื่อให้สุกไว และเมื่อสุกแล้วคั่วให้ผิวเกรียมเล็กน้อยเพื่อความหอม

3.ตำพริกให้เกือบละเอียด หรือตามความชอบ

4.ใส่หอม กระเทียมลงตำให้เนียน

5.ใส่กะปิลงตำให้เข้ากัน

6.ใส่เนื้อปลาลง ตำให้เนียน เข้ากัน

7.ตักน้ำพริกใส่กะทะ เทน้ำมันลง และเอาน้ำล้างครกเล็กน้อย ใส่ลงไปด้วย

8.ผัดให้หอม และปรุงรส ผัดให้น้ำแห้งจนพอใจ ชิมรสตามชอบ

แค่นี้ก็ได้น้ำพริกตาแดง ไว้ทานแล้ว กินกับผักสด หรือผักลวก คลุกข้าวสวยร้อน ๆ กินกับไข่ต้ม เข้ากันอย่างมาก  **หากจะเก็บ รอให้น้ำพริกเย็นแล้วจึงเก็บเข้าขวด**

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูผัดน้ำมันหอยผักรวมไข่นกกระทา อร่อยง่ายได้คุณค่าทางอาหาร

ผัดผัก.. เป็นเมนูง่าย ๆ ที่ทำทานได้บ่อย ๆ ในบ้าน  แต่วันนี้เราจะมาแนะนำเมนูที่แอดวานซ์ขึ้นอีกนิด ด้วยการใส่ไข่นกกระทาลงไปผัดด้วยค่ะ อร่อยครบถ้วน ได้คุณค่าทางอาหารครบหมู่กันเลย  กับเมนู “ผัดน้ำมันหอยไข่นกกระทา” นั่นเองค่ะ  รับรองเลยว่าเด็ก ๆ ต้องโปรดปรานเมนูนี้แน่ ๆ มาดูสูตรกันเลยค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.ไข่นกกระทา 10 ฟองหรือตามชอบ(เราไม่เน้นไข่)ต้มให้สุก แช่น้ำเย็น ปอกเปลือกพักไว้

2.ผักต่างต่าง(ถั่วลันเตา แครอท บล๊อดเคอรี่ ข้าวโพดอ่อน พริกหวาน) หั่นผักตามชอบ ลวกน้ำร้อนหรือไม่ลวกก็ได้ พักไว้

3.กระเทียมสับ 1 ช้อนชา

4.น้ำมันหอย 2-3 ชต. ซิอิ้วขาว 1 ชต. น้ำมันงา 1.5 ชต.น้ำตาลทราย 1.5 ชต.(ใช้น้ำตาลปี๊บแทนก็ดี น้ำจะข้นน่าทาน) ผงปรุงรสหมู 2 ช้อนชา

 

วิธีทำ


1.ทอดไข่นกกระทาต้ม ให้ผิวเกรียม ๆ ตักพักไว้

2.เจียวกระเทียมในน้ำมัน ชต.ให้หอม ใส่ผักทุกอย่างลงไปทั้งหมด ผัดให้ทั่ว ปรุงรสตามชอบ ใส่ไข่ลงไป น้ำแห้งเติมน้ำเล็กน้อย ผัดสุกตามความชอบ ตักใส่จานโรยพริกไทยป่นเล็กน้อย.

ปล.เวลาลวกผักเมื่อได้ที่แล้วให้ตักขึ้นใส่น้ำเย็น ผักจะสีสวยน่าทาน

จะทำทานกันเป็นมื้อเย็นในบ้าน หรือจะทำใส่กล่องไปทานที่โรงเรียน ที่ทำงาน ก็รับรองได้ว่าใคร ๆ เห็นเป็นต้องอยากชิมทุกคนแน่นอน

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูบัวลอยเบญจรงค์มะพร้าวอ่อน-ไข่นกกระทาหวาน หวานหอมแบบโบราณ

สำหรับเมนูวันนี้เป็นของหวานสูตรโบราณเลยค่ะ  กลิ่นหอมหวาน หน้าตาก็สวยน่าทานมาก กับเมนู “บัวลอยเบญจรงค์มะพร้าวอ่อน-ไข่นกกระทาหวาน”  น่ากินสุด ๆ ค่ะ ทำถวายพระงานบุญ หรือทำใส่บาตรได้เลยนะคะ  ขั้นตอนอาจจะดูเยอะสักนิด แต่ถ้าได้ทานรับรองว่าจะไม่เสียดายเวลาเลยค่ะ  วันหยุดไหนว่าง ๆ ลองชวนลูกหลานในบ้านมาช่วยกันปั้นแป้งสิ  ลุยกันเลย

 

วัตถุดิบทั้งหมด


1.แป้งข้าวเหนียว

2.แป้งมัน

3.หัวกะทิ

4.น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย

5.ไข่นกกระทา

6.มะพร้าวอ่อน

7.เกลือป่น

8.ใบเตย แครอท ฟักทอง น้ำหวานสีแดง

 

วิธีทำแป้งแต่ละสี


**แป้งสีส้มได้จากแครอท

1.หั่นแครอทเป็นลูกเต๋าเล็ก ต้มในน้ำเดือดจนนิ่ม นำออกมาพักให้สะเด็ดน้ำ

2.ยีหรือบี้แครอทในกระชอยถี่ ให้เนื้อทะลุออกมา ตักเอาเฉพาะเนื้อแครอทที่ทุลุออกมาจากกระชอน

3.ผสมแป้งข้าวเหนียว+แป้งมัน(อัตรา 9:1ส่วน)

4.ค่อย ๆ เติมกะทิลงในแป้ง นวดพอติดเป็นก้อนนิด ๆ แล้วนำเนื้อแครอทมาผสม กะให้ผสมแล้วแป้งเหนียวพอดี นวดจนแป้งเหนียว พักไว้

 

**แป้งสีเหลือง ได้จากฟักทอง

1.ปอกเปลือกฟักทอง หั่นฟักทองเป็นลูกเต๋าเล็ก ต้มในน้ำเดือดจนนิ่ม นำออกมาพักให้สะเด็ดน้ำ

2.ยีหรือบี้ฟักทองในกระชอยถี่ ให้เนื้อทะลุออกมา ตักเอาเฉพาะเนื้อฟักทองที่ทุลุออกมาจากกระชอน

3.ผสมแป้งข้าวเหนียว+แป้งมัน(อัตรา 9:1ส่วน)

4.ค่อย ๆ เติมกะทิลงในแป้ง นวดพอติดเป็นก้อนนิด ๆ แล้วนำเนื้อฟักทองมาผสม กะให้ผสมแล้วแป้งเหนียวพอดี นวดจนแป้งเหนียว พักไว้

 

**แป้งสีเขียว ได้จากใบเตย

1.หันใบเตย 4-5 ใบพอหยาบ ๆ นำไปตำให้ละเอียด เติมน้ำ 1-2 ชต.บีบและคั้นเอาแต่น้ำ

2.ผสมแป้งข้าวเหนียว+แป้งมัน(อัตรา 9:1ส่วน)

4.ค่อย ๆ เติมกะทิลงในแป้ง และน้ำใบเตย 1.5 ชต. นวดจนแป้งเหนียว พักไว้

**แป้งสีแดง ได้จากน้ำหวานสีแดง

1.ผสมแป้งข้าวเหนียว+แป้งมัน(อัตรา 9:1ส่วน)

2.ค่อย ๆ เติมกะทิลงในแป้ง และน้ำหวานสีแดง 1 ชต. นวดจนแป้งเหนียว พักไว้

 

**แป้งสีขาว

1.ผสมแป้งข้าวเหนียว+แป้งมัน(อัตรา 9:1ส่วน)

2.ค่อย ๆ เติมกะทิลงในแป้ง นวดจนแป้งเหนียว พักไว้

---------

 

วิธีต้มเม็ดบัวลอย


1.นำแป้งแต่ละสี มาปั้นขนาดเท่าลูกมะเขือพวง หรือขนาดตามชอบ โดยโรยแป้งมันไว้ที่ภาชนะที่รอง ละมือเพื่อกันแป้งติดมือ

2.ตั้งน้ำเปล่าให้เดือด

3.ใส่แป้งที่ปั่นแล้วลงไป ในขณะน้ำเดือดแรง รอเวลา 2-3 นาที ให้เม็ดบัวลอบ ลอยขึ้นมาที่ผิว

4.เมื่อลอยแล้ว รอีก 30 วินาที แล้วตักเม็ดบัวลอย ลงแช่ในน้ำเย็น และตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ พักไว้

 

วิธีทำไข่หวาน


1.ตั้งนำใส่น้ำตาลทราย น้ำ 0.5 ลิตร น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง

2.รอให้น้ำตาลละลายและเดือด

3.ตอดไข่นกกระทาใส่ลงไป ระวังอย่าให้แตก

4.รอ 3-4 นาที ให้ไข่สุก ตักไข่แยกจากน้ำให้ถ้วย (การต้มไข่หวานแยก เพื่อป้องกันกลิ่นคาวหากต้มไปพร้อมกับบัวลอย)

---------

วิธีต้มน้ำบัวลอย


1.ผ่ามะพร้าว เอาน้ำไว้ และขูดเนื้อมะพร้าวแยกไว้

2.ตั้งน้ำมะพร้าว 1-2 ลูก ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไป คนให้ละลายและเดือด (ระวังอย่าใส่น้ำตาลมาก จะหวานเกิน)

3.นำหัวกะทิใส่ลงไป คนอย่าให้แตกมัน เมื่อเริ่มเดือด ให้นำเนื้อมะพร้าว และเม็ดบัวลอย มาใส่ลงไป

4.คอยคนให้เม็ดบัวลอยแตกตัว และใส่เกลืป่นลงไปเล็กน้อย(0.5ชช.หรือตามชอบ) ชิมรสตามชอบ

5.คอยคนจะเดือด ปิดไฟ

ตักบัวลอยใส่ถ้วยหรือลูกมะพร้าว ตักไข่หวานไว้ด้านบน ......ลุยเลยครับ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูปูนิ่มผัดพริกไทยดำ หอมฟุ้งชวนหิว

แค่ชื่อเมนูในวันนี้ก็ชวนให้รู้สึกหิวแล้วค่ะ  ใครที่โปรดอาหารทะเลรับรองว่าต้องชอบเมนูนี้อย่างแน่นอน  “ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ” นั่นเองค่ะ  สูตรนี้จะใช้เป็นปูนิ่มก็ได้ หรือหากหาไม่ได้ จะเลือกเป็นซีฟู้ดชนิดอื่น ๆ ก็เข้ากันได้ดีเหมือนกัน มาดูสูตรไว้ทำกันให้อร่อยได้เลยค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.ปูนิ่ม 2 ตัว

2.ผักที่ใส่ตามชอบ พริกหวาน ข้าวโพดอ่อน หอมใหญ่ แครอท หั่นตามชอบ

3.เครื่องปรุง น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำมันงา น้ำตาลทราย

4.กระเทียมสับ 1 ชต.

5.พริกไทยดำ ตำหยาบ 2 ชต.

6.ต้นหอมหั่น 1 นิ้ว 2 ชต.

7.แป้งทอดกรอบ น้ำมันพืช

 

วิธีทำ


1.นำปูนิ่มคลุกแป้งทอดกรอบไม่ต้องใส่น้ำ ทอดทั้งตัวให้พอสุก แล้วหั่น 4 ชิ้นต่อตัว หรือตามชอบ

2.เจียวกระเทียม ให้หอม นำปูนิ่มและผักลงใส่

3.เติมเครื่องปรุง และน้ำเล็กน้อย ผัดให้สุก ชิมรสตามชอบ

4.ใส่พริกไทยดำและต้นหอม ผัดคลุกพอให้เข้ากัน

เสร็จแล้ว ง่ายมาก พร้อมเสิร์ฟครับ

 

แค่นี้ก็ได้เมนูปูนิ่มผัดพริกไทยดำอร่อย ๆ ทานในบ้านกันเองได้แล้ว ไม่ต้องเปลืองไปสั่งตามร้านอาหารเลยนะคะ  ลองนำสูตรไปทำชิมกันได้ค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

 

เมนูนกผัดเผ็ด อร่อยแซ่บข้าวหมดไม่รู้ตัว

ที่ผ่านมาเราแนะนำเมนูผัดเผ็ด ๆ มาก็หลายเมนูแล้ว  วันนี้เปลี่ยนมาเป็นอาหารกึ่งป่า ๆ กันสักเมนู  กับเมนู “นกผัดเผ็ด” ค่ะ  เลือกนกชนิดต่าง ๆ ได้ตามชอบเลย อร่อยไม่ต่างกับเนื้อไก่เลยค่ะ  ใครที่ไม่เคยทำเนื้อนกมาก่อน ให้แม่ค้าทำความสะอาดให้ก่อนก็ได้นะคะ จะได้ไม่ลำบาก  ว่าแล้วมาดูสูตรกันเลย

 

วัตถุดิบ


1.นกสด จะเป็นนกกระทา นกกวัก เนื้อนกที่ชอบ-หากไม่ได้รนไฟมา ให้นำมารนไฟเผื่อเขาขนอ่อน ๆ และให้ผิวตึง ผ่าท้อง เอาเครื่องในออก เหลือไว้แต่ส่วนที่ชอบ สับตามชอบ ล้างให้สะอาด

2.พริกแกงเผ็ด 2 ชต.

3.มะเขือเปราะ 5-6 ลูก ล้าง หั่นตามชอบ แช่น้ำใส่เกลือเล็กน้อย(ป้องกันมะเขือดำ)

4.กระชายซอย 1-2 ชต. พริกไทนอ่อน หั่นเป็นท่อน 1-2 ชต.

5.เครื่องปรุง น้ำปลาหรือเกลือป่น ผงปรุงรส(หากชอบ) หรือน้ำตาลทราย 0.5-1 ชช.

6.ใบกะเพรา ใบมะกรูดฉีก พริกแดงซอยเฉียง

7.น้ำมัน

 

วิธีทำ


1.ผัดพริกแกงกับน้ำมันให้หอม แห้งให้เติมน้ำเล็กน้อย

2.ใส่เนื้อนกลงไป อย่าคน ใช้พลิกแทน น้ำแห้งเติมน้ำทีละน้อย

3.ผัดจนสุกและเติมน้ำเล็กน้อย ทิ้งให้เดือดเข้าเนื้อ

4.ใส่มะเขือลงไป ทิ้งให้สุกตามชอบพร้อมปรุงรสที่ชอบ

5.ใส่ใบผักลงไป ผัดพอสลด

ปิดไฟตักใส่จาน พร้อมเสริฟครับ

ปล. - หากไม่ชอบแบบผัดสดให้นำนกไปทอดก่อน จึงนำมาผัด

- ผักที่ใส่เปลี่ยนไปตามความชอบ เป็นมะเขือพวง ยอดมะพร้าวอ่อน

- หากชอบแบบใส่กะทิ ให้ใช้หัวกะทิผัดแทนน้ำมัน

 

อาหารเมนูเผ็ด ๆ แบบนี้  ทำออกมาอร่อยๆ ทานข้าวหมดหม้อไม่รู้ตัวเลยนะคะขอบอก

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูแกงพะแนงเนื้อ แกงเข้มข้น เนื้อเคี่ยวนุ่ม

ในบรรยาอาหารไทยที่ชาวต่างชาติรู้จัก แกงพะแนง เป็นอีกชนิดของอาหารที่ขึ้นชื่อเลยนะคะ  เพราะพริกแกงรสชาติไม่เผ็ดร้อนมาเกินไป ทั้งยังหอมติดจมูก ติดใจกันทุกชาติก็ว่าได้  วันนี้จะมาชวนคุณอ่านทำเมนู “แกงพะแนงเนื้อ” ค่ะ  สูตรนี้หอมเข้มข้นมาก เผ็ดร้อน ทานข้าวได้เยอะเลยทีเดียว

 

วัตถุดิบ


1.เนื้อติดมันหรือเนื้อส่วนที่ชอบ - ล้าง หั่นบาง พักไว้

2.พริกแกงแพนง (เนื้อ 0.5 กก. ใช้พริกแกง 200-250 กรัม )

3.หัวกะทิสด รือกะทิกล่อง ตามความสะดวก

4.มะเขือพวง มากน้อยตามชอบ เด็ดขั่ว ล้างน้ำ

5.เครื่องปรุง น้ำตาลปี๊บ น้ำปลาหรือเกลือป่น

6.ใบโหระพา ใบมะกรูดซอย พริกแดงเม็ดใหญ่ซอย (หรืออาจใส่ใบมะกรูดฉักไปด้วย)

 

วิธีทำ


1.นำเนื้อไปรวนกับหางกะทิ ให้นุ่ม หรือเปื่อยตามชอบ

2.นำพริกแกงแพนง มาใส่ ยีให้แตก ผัดไปกับเนื้อ

3.เติมหัวกะทิ มากน้อยตามชอบ

4.เดือดแล้วใส่มะเขือพวงลงไป รอให้เดือด และมะเขือสุกตามชอบ

5.ปรุงรส ตามชอบ

6.ใส่ใบผักลงไป ผัดพอสลด ปิดไฟ.

 

ปล.ท่านที่ไม่ทานเนื้อ จะเปลี่ยนเป็นหมู ไก่ ก็ได้นะคะ  นอกจากนี้ถ้าหันไปใช้พวกอาหารทะเล อย่างกุ้ง หรือปลาหมึก ก็ยังได้อีกด้วย ลองเอาไปทำกันดูได้เลย

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

 

เมนูไอติมกะทินมสด ทำทานเองเย็นชื่นใจ

วันไหนร้อน ๆ ก็นึกอยากทานไอติมเย็นชื่นใจเหมือนกันนะคะ แต่เดี๋ยวนี้ “ไอติมกะทิ” อร่อย ๆ หาทานยากขึ้นทุกที ที่มีขายก็ไม่มันไม่หอมเลย  ว่าแล้วเรามาทำทานเองเสียเลยดีกว่า  จะทำให้เข้มข้นขนาดไหนก็ได้ตามใจชอบ ทานให้เย็นจุใจกันเลยกับเมนูนี้ค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.วิปครีมกล่อง ขนาด 250 มล.

2.หัวกะทิสด 150 กรัม

3.นมข้นจืด(นมสดกะป๋อง)100 กรัม

4น้ำตาลทราย 100 กรัม(เพิ่ม-ลด ตามความชอบ)

 

วิธีทำ


1.นำน้ำตาลและวิปครีมผมสให้เข้ากันแล้วตีให้ตั้งยอด

2.นำกะทิและนมผสมกัน

3.นำวิปครีมที่ตีแล้วมาค่อย ๆ ผสม คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว หรือตีให้เข้ากัน

4.น้ำเข้าตู้เย็นช่องแข็ง4-5 ชม.แล้วแต่ขนาดของตู้เย็น

5.เมื่อไอติมแข็งได้ 85-90 % นำออกมาตีให้เนื้อเนียนอีกครั้ง แล้วแช่อีกรอบ

 

ตักใส่ลูกมะพร้าว โรยถั่วและนมข้นจืด หรือใส่ขนมปังโรยถั่ว นมข้นจืด แค่นี้ก็มีไอติมกินเองแบบรสชาดของเราแล้วครับ ปล.หากจะชอบรสใบเตย หรืออื่น ๆ ให้ผสมในขั้นตอนผสมน้ำกะทิ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูไข่ลูกเขยไข่นกกระทา เปรี้ยวหวานถูกใจเด็ก ๆ

จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ  เวลาเห็นไข่นกกระทาทีไรก็นึกเอ็นดู อยากเอามาเล่นทำกับข้าวทุกทีสิน่า  วันนี้ลองมาเอาใจลูก ๆ ของเรากันด้วยเมนูเด็กกรี๊ด กับ “ไข่ลูกเขยไข่นกกระทา” เมนูนี้กันดู  นอกจากจะเป็นอาหารทานอร่อยแล้ว ให้เด็ก ๆ ช่วยหัดปอกไข่ทำกับข้าวด้วย เขาต้องชอบกันแน่ ๆ ค่ะ

 

วัตถุดิบ


1.ไข่นกกระทา มากน้อยตามชอบ ผมใช้ประมาณ 20 ฟอง ต้มให้สุก แกะเปลือก

2.หมูสับหรือบด 2 ชต.

3.กุ้ง 3 ตัว แกะเปลือกล้าง หั่นชิ้นเล็ก หรือประมาณ 2 ชต.

4.หอมแดงซอย 1-2 ชต.

5.เครื่องปรุง น้ำตาลปี๊บ 1.5 ชต. น้ำมะขาม 1.5 ชต.ซีอิ้วขาว 1.5-2 ชต.

6.พริกชีฟ้าแห้ง 5-10 เม็ด ทอดในน้ำมันให้กรอบ

7.ใบผักชี ซอย 1 ชต.

 

วิธีทำ


1.ตั้งน้ำมันให้ร้อน กะพอท่วมไข่ เมื่อร้อนแล้วเอาใข่ลงทอด ใช้วิธีเย่ากะทะ แทนการใช้ตะหลิวคน ทอดจนผิดเหลืองจนพอใจ ตักขึ้พักไว้

2.เทน้ำมันอกให้เหลือประมา 1 ชต.ตักหอมแดงซอยใส่ลงไป 1 ชช. เจียวให้หอม

3.ใส่หมูสับและกุ้งลงไป ผัดพอสุก

4.ปรุงรส และชิมตามชอบ

5.นำไข่ที่ทอดแล้วมาใส่ ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน เติมน้ำได้เล็กน้อย หากแห้ง

6.ได้ที่โรยหอมแดงซอยและผักชี คลุก แล้วปิดไฟ

7.ตักใส่จาน โรยพริกไทยป่น และพริกคั่ว

**ปล. สำหรับสูตรไข่เป็ด ไข่ไก่ ก็ทำเช่นเดียวกัน แต่อาจจะไม่นำไข่ลงผัด แต่ใช้วิธีผ่าเรียงในจาน แล้วตักน้ำซอสราดแทน**

 

เมนูวันนี้นอกจากอร่อยปากแล้ว เด็ก ๆ ยังติดใจร้องให้คุณทำให้ทานบ่อย ๆ แน่ค่ะ

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

 

เมนูเมี่ยงปลาทับทิมอบเกลือ หวานเนื้อปลาอร่อยได้ทั้งครอบครัว

สำหรับวันหยุดที่มีญาติพี่น้องมาบ้านกันเยอะ ๆ ลองทำเมนูอาหารว่างที่ทานเล่นกันได้ทั้งครอบครัวอย่าง “เมี่ยงปลาทับทิมอบเกลือ” นี่ดูสิ  เนื้อปลาทับทิมหวานมาก ทานกับผักสดหลายชนิด มีประโยชน์ ทานเพลิน อร่อยได้ไม่มีอ้วนด้วยล่ะ

 

วัตถุดิบ


1.ปลาทับทิม ขนาดตามชอบ ผ่าท้องควักใส้ออก ล้างให้สะอาด

2.น้ำจิ้ม-พริกไทย 10 เม็ด(ไม่ชอบไม่ต้องใส่) รากผักชี 2 ราก กระเทียม 1.5-2 ชต.พริกขี้หนูสวน 2-2.5 ชต. ถั่วลิสงคั่ว 3-4 ชต. น้ำปลา มะนาว น้ำตาลทราย

3.วุ้นเส้น หรือ เส้นหมีขาว แช่น้ำสะอาด

4.ผักสดไว้ทานแกล้ม-ใบคะน้า ใบผักกาดขาว ผักกาดหอม คื่นช่าย ใบผักชีฝรั่ง ใบสะระแหน่ ใบผักแพว ฯลฯ ล้างให้สะอาด จัดเรียงใส่ภาชนะ

5.เกลือป่น 5-6 ชต.(ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวปลา)

วิธีทำ


1.เมื่อปลาแห้งหมาด ๆ ให้นำมาคลุกกับเกลือป่นให้ทั่วตัว แล้วนำไปเข้าเตาอบอุณหภูมิประมาณ 220-250 องศาเซลเซียส ประมาณ 25-30 นาที หรือแล้วแต่ขนาดตัวปลา หรือนำไปย่างไฟ(ปลาต้องไม่เปียกเกินไปเพราะจะทำให้เกลือละลายไม่ติดตัวปลา)

2.น้ำจิ้ม-ตำพริกไทยให้ละเอียด สับรากผักชีใส่และตำ แล้วจึงนำพริกกระเทียมลงตำให้ละเอียด แล้วใส่ถั่วลิสงคั่งลงไป ตำให้ละเอียดหรือตามชอบ ปรุงรสตามชอบ

3.วุ้นเส้นหรือเส้นหมี นำลวกน้ำร้อน แล้วแช่น้ำเย็น พักให้สะเด็กน้ำ นำคลุกกับน้ำมันกระเทียมเจียว หากไม่ชอบไม่ต้องคลุก

4.นำปลาที่สุกแล้ว ใช้มีดปลายแหลมแทงที่หนังปลาตรงครีบกลาง แล้วใช้กรรไกรตัดเลาะหนังปลาจากหัวถึงหาง แล้วลอกออก จัดปลาใส่จาน

 

เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ล้อมลงเข้ามาแย่งกันทานได้เลย สนุกกว่าทานคนเดียวเยอะค่ะเมนูนี้

 

สูตรอาหาร รูปภาพโดย : คุณ คริษฐ์ เกตุแค  ผู้ดูแลเพจ อาหารที่แม่สอน

เรียบเรียงโดย : www.tamsabuy.net (ตามสบาย)

เมนูเนื้อผัดพริกแกงใบยี่หร่า เผ็ดร้อนหอมแรงเกินห้ามใจ

ใครชอบทานอาหารรสชาติเผ็ดร้อนต้องลองเมนูนี้ค่ะ “เนื้อผัดพริกแกงใบยี่หร่า” ที่หอมฟุ้งจนขึ้นจมูกไปทั้งซอย รสชาติก็จัดจ้านเกินห้ามใจจริง ๆ ทานเ...